Chocolate and Beer Cake

มี หลาย ๆ คนถามนก "ทำไม่ถึงได้เก่งในเรื่องการทำอาหาร และทำได้หลายๆประเภท" คำตอบของนกที่ตอบอยู่เป็นประจำก็คือ......นกไม่ได้เก่งการทำอาหารมาตั้งแต่ เริ่มต้น เครื่องปรุงหลายๆ อย่างก็ไม่รู้จัก เหตุเพราะตัวเองเข้าครัวน้อยหรือจะบอกได้ว่าไม่ได้เข้าครัวทำอาหารเลยก็ว่า ได้ค่ะ นกมาเริ่มต้นจริงๆ จังๆ ก็เมื่อมีครอบครัวเป็นแม่บ้าน ซึ่งเป็นเหตุบังคับให้เราต้องทำให้เป็นทำให้ได้ ดังนั้นอาหารหลายๆอย่างเกิดจากแม่ที่คอยให้ความรู้ คอยบอกไม่เข้าใจก็จะโืทรไปถามท่านอยู่เสมอๆ นอกเหนือจากแม่แล้ว นกก็ยังมีตำราอาหารที่มีอยู่มากมายตามร้านหนังสือเป็นครูช่วย สอนทำให้เกิดความรู้ ซึ่งนกมักจะเข้าไปเดินดู และเลือกซื้อหาติดมือมาเป็นประจำนกเชื่อว่าคนเราต้องมีการฝึกฝน หัดทำ ถึงจะพัฒนาฝีมือของตนเองไปได้ไม่มีใครเก่งคิดได้เองในทันที่ทันใดโดยไม่เคย จับต้อง และไม่เคยได้เห็นหรือมีใครบอกและฝึกมาก่อน นกเองก็เป็นเช่นนั้น เมื่อนกเริ่มที่จะเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไรก็สามารถปรับประยุกต์ให้เป็นไปใน สิ่งที่ตนเองชอบ นกว่าการทำอาหารก็เป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่ใครชอบแบบไหนก็ปรุงแต่งในแบบของตน เอง เพื่อน ๆ ว่าจริงๆไม่ค่ะ วันนี้นกมีเค้กมากฝากเพื่อน ๆ แต่นกเพิ่มความแปลกไปโดยใช้เบียร์เป็นส่วนผสมในการทำเค้กตัวนี้จากเดิมที่ เป็นสูตรเค้กชอคโกแลต์ธรรมดา ที่นกทำอยู่เป็นประจำนะค่ะ





ส่วนผสมตัวเค้ก
ผงโกโก้ 50 กรัม (cocoa powder)
เบียร์ 200 มิลิลิตร
เนยสดรสจืด 110 กรัม
น้ำตาลทรายป่น 275 กรัม (นกใช้ Dark soft brown sugar)
ไข่ไก่ขนาดใหญ่ 2 ฟอง
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 180 กรัม
ผงฟู 1/4 ชช
โซดาไบคาร์บอร์เนต (เบคกิ้งโซดา) 1 ชช

ส่วนผสมสำหรับไอซิ่งแต่งเค้ก
น้ำตาลไอซิ่ง 120 กรัม
เนยสดรสจืด 60 กรัม
เบียร์ 2 ชต
Dark Chocolate 110 กรัม
Walnut บดหยาบ ๆ 25 กรัม (นกทุบเอาพอแตก ๆ )
Walnut ไ้ว้ตกแต่งหน้าเค้ก ตามชอบ

วิธีทำ
1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาซี เริ่มที่ตัวเค้กก่อน โดยผสมผงโกโก้ กับเบียร์ คนให้ทเข้ากันพักไว้ (เวลาผสมให้เทเบียร์ลงไปที่ละน้อย แล้วค่อยๆ คนให้เข้ากันทำอย่างนี้จนเบียร์หมด)
2. นำเนยสด และน้ำตาลใส่ลงในอ่างผสม จากนั้นตีเข้าด้วยกันจนเป็นเนื้อครีม (เนยสดที่ใช้จะต้องทิ้งไว้ในอุณภูมิห้อง ให้เนยอ่อนตัวแล้วถึงจะนำมาใช้)
3. นำส่วนผสมของแป้ง ผงฟู และโซดาไบคาร์บอร์เนต (เบคกิ้งโซดา) มาร่อนรวมกันสองครั้ง พักแป้งไว้
4. ตอกไข่ลงในอ่างผสมที่ละฟอง ตีให้ส่วนผสมของไข่เข้าเป็นเนื้อเดียวกับส่วนผสมของเนยและน้ำตาล
5. นำส่วนผสมของแป้งที่ร่อนไว้แล้งใส่ลงในอ่างผสมตีให้เข้ากันอีกครั้ง (เวลาตีให้ใช้ความเีร็วตำตีก่อนป้องกันการกระจายของแป้ง)
6. เมื่อส่วนผสมเข้ากันเป็นที่เรียบร้อยให้แบ่้งตัวแป้งเค้กออกเป็นสองส่วนเท่า ๆ กัน เอาเข้าเตาอบ อบประมาณ 35 นาที หรืออบจนกระทั้งสุก ( ตาอบแต่ละบ้านไม่เท่ากัน เวลาอบให้เช็ดดูว่าเค้กของตนเองด้วย) อบเสร็จแล้วให้นำเค้กมาพักให้เย็น อัีนนี้แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคน
7. เมื่อเค้กเย็นสนิืทแล้วจึงมาทำไอซิ่งแต่งหน้าเค้ก โดยนำเนยแต่น้ำตาลไอซิ่งตีเข้าด้วยกัน (เวลาตีน้ำตาลไอซิ่งให้ใส่ที่ละน้อย ไม่อย่างนั้นน้ำตาลจะฟุ้งกระจาย) ตีจนกระทั้งจนกลายเป็นเนื้อครีม ใส่เบียร์ 2 ชต ลงไป คนให้เข้า ๆกัน
8. นำ Dark Chocolate ไปตุ่นให้ละลายจนหมด เสร็จแล้วเทลงไปในไอซิ่งครีมที่ตีไว้ ตีให้เข้ากันอีกครั้ง เสร็จแล้วแบ่งออกเป็น สามส่วน โดยหนึ่งส่วนเป็นไส้เค้กให้ใส่ Walnut บดหยาบลงไป คนให้เข้ากัน อีกสองส่วนไว้แต่งหน้าเค้ก
9. จัดการแต่งหน้าเค้กตามชอบได้เลย (ไอซิ่งChocolate ค่อนข้างจับตัวเร็วให้รีบแต่งหน้าอยางทิ้งไว้ ไม่นั้นมันจะแข็งตัว) แต่งหน้าเสร็จตัดใส่จานยกเสริฟได้เลยค่ะ

***ตัดมาให้ชมเห็นเนื้อเค้กด้านในกันอีกรอบ ก่อนยกเสริฟให้แฟนคลับชิมเสียก่อน จากนั้นตัดแบ่งไปให้พ่อแม่ที่บ้าน เค้กนี้กะจะทำให้แฟนคลับนำไปแจกเพื่อน ๆ ในงานเลี้ยงคริสมาสต์ของบริษัทที่จะถึงพร้อมกับเค้กอีกชิ้นที่มีเสียงบอกกล่าวให้ทำมาล่วงหน้านี้แล้ว***





*** สำหรับเบีียร์เพื่อน ๆ จะใช้เบียร์อะไรยี่ห้อไหนก็ได้แล้วแต่จะชอบนะค่ะ ของนกวันนี้เลือกใช้เบียร์ที่เห็นในภาพนี้่ละค่ะ เห็นบอกว่าเป็น King's of Beer นกเป็นคนไม่ดืมเบียร์ เลยเอามาทำขนมเสียเลยจะได้รู้ว่ามันอร่อยจริงอะป่าว***



คุ๊กกี้ชินาม่อน

คุ๊กกี้นี้แฟนคลับถามหา นกเลยจัดตามคำขอเสียเลย แต่คราวนี้บอกให้ทำเยอะเป็นพิเศษเพราะจะเอาไปให้เพื่อน ๆ ทีทำงานกินด้วย สงสัยคงคิดถึงฝีมือเราแน่น ๆ ปกติเวลาทำขนมอบที่ไรมักจะแบ่งให้แฟนคลับถือไปให้เพื่อน ๆ ทีทำงานกินด้วยเป็นประจำ แต่หลังจากคริสต์มาส ปีใหม่ นกไม่ได้ทำขนมอบเลย วันนี้ถือว่าเป็นเป็นเมนูแรกต้อนรับปีใหม่ก็ว่าได้ค่ะ



ส่วนผสม
แป้งพายสำเร็จ 1 ห่อ
เนยเค็มสด 2-3 ชต
ผงชินาม่อน 2 ชต
น้ำตาลทรายแดง 1/4 ถ้วย

วิธีทำ
1.แบ่งแป้งพายออกเป็น 2 ส่วน คลึงแป้งให้บาง ๆ จากนั้นทาด้วยเนยบาง ๆให้ทั่วแผ่นแป้ง
2.โรยผงชินาม่อน และน้ำตาลทรายแดงให้ทั่ว เสร็จแล้วม้วนให้จนสุดปลายอีกด้านหนึ่ง ตัดให้เป็นท่อน ๆ ขนาดตามชอบ
3.ทาเนยบนถาดอบวางขนมให้ห่างกันประมาณ พอประมาณ เอาเข้าอบประมาณ 15 นาที หรือจนกระทั้งขนมสุก

***สูตรที่นกให้เป็นแป้งพายสำเร็จ สะดวก และง่ายสำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่ชอบนวดแป้งเอง แต่สำหรับนกแล้วเวลาทำทุกครั้งจะนวดแป้งเอง เพราะแฟนคลับชอบแป้งที่ทำเองมากกว่าที่ซื้อจากซุปเปอร์นะค่ะ ถ้าเพื่อน ๆ สนใจแป้งพาย สุตรเคยเขียนไว้แล้วใน
Apple and Blackberry Pie คลิ๊กเข้าไปอ่านดูได้เลยค่ะ***


BUN (ขนมไข่)



ส่วนผสม
เนยสดรสจืด 160 กรัม
น้ำตาลทรายขาว 160 กรัม (หากไม่ชอบหวานให้ลดปริมาณน้ำตาลลง)
ไข่ไก่ 3 ฟอง (หากไข่ใบเล็กให้ใช่ 4 ฟอง)
แป้งเค้ก 150 กรัม

วิธีทำ
1.ก่อนทำให้วอร์มเตาไว้ก่อนที่ไฟ 180 องศาเซลเซียส
2.เอาเนยใส่อ่างผสมแล้วก็ตีจนเนยแค่พอนิ่มเป็นครีม (ไม่ต้องตีจนฟูขาว) ใช้เครื่องตีระดับกลาง
3.ใส่น้ำตาลลงไปที่ละครึ่ง จากนั้นใช้เครื่องตีน้ำตาลให้เข้ากับเนยประมาณ 25-30 วินาที จนน้ำตาลเข้ากับเนต (ไม่ต้องตีจนขาวฟูนะค่ะ)
4.ใส่ไข่ลงไปปั่นต่อ ให้เข้ากันจนกระทั้งได้แป้งหนืดๆ ข้นๆ เทใส่พิมพ์ที่เตรียมๆไว้
5.นำเข้าตู้อบประมาณ 30 นาที อบจนได้ที่ นำออกจากเตาตัดเสริฟพร้อมกาแฟ ยามบ่ายได้เลยค่ะ


ทองหยิบ ทองหยอด

เพื่อนๆ ทราบไม่ค่ะว่าขนมตระกูลทองมีกี่อย่าง และมีขนมทองอะไรที่เป็นที่นิยมคนรู้จัก และกินกันเยอะ นกคิดว่าคงไม่พ้น สองทองที่นกทำแน่นอนค่ะ นั้นก็คือ ทองหยิบ ทองหยอด แต่จะทำได้ต้องโทรไปถามแม่ก่อนว่าเค้าทำกันอย่างไรสูตรได้มาเรียบร้อยแล้ว วันนี้กฤษ์ดีไม่ได้ไปไหนว่างเยอะลงมือทำเสียเลย และอีกเหตุผลที่นกเลือกทำขนมทองหยิบ ทองหยอด ก็เพราะเพื่อนๆ ส่งข้อความถามขนมตระกูลทองในครัวเอ็นดีมีได้ทำหรือเปล่า แล้วสูตรมีบ้างไม่ อยากกินมากๆ เลย จริง ๆ ไม่ได้ถามหาเพียงคนเดียวเรื่องสูตร หลาย ๆคนถามหาเช่นกัน นกเห็นแม่ทำขนมพวกนี้แล้วรู้ถึงความยากของการทำ ที่จะทำให้สวยได้ดั่งใจ แต่เอาละเป็นงัยเป็นกันไม่ลองก็ไม่รู้สักทีว่าตัวเองทำได้หรือเปล่า อีกอย่างนกเองก็อยากกินถ้าไม่ทำจะได้กิน คงต้องคอยกลับไปกินที่เมืองไทย ตัดใจสู้ ค่ะ และแล้วผลงานของขนมตระกูลทองออกมาหน้าตาเป็นอย่างนี้ วันนี้ทำสองทองก่อนนะค่ะ ไว้มีโอกาสจะทำทองอื่น ๆมาให้ชมกันอีก





ส่วนผสมทองหยิบ
ไข่ไก่ 5 ฟอง
น้ำตาลทราย 6 ถ้วย
น้ำลอยดอกมะลิ 3 ถ้วยตวง

วิธีทำ
1. ผสมน้ำ น้ำตาลทราย ตั้งไปให้เดือด พอเหนียว ตักน้ำเชื่อมขึ้นใส่ถาดไว้พอประมาณ ส่วนที่เปลือตั้งไฟต่อไป
2. แยกไข่แดง ไข่ขาวออกจากกัน จากนั้นตีไข่แดงให้ขึ้น ไข่จะเปลี่ยนเป็นสีนวล
3. ตักไข่ที่ตีได้ที่แล้วหยอดลงในน้ำเชื่อมที่ตั้งอยู่บนไฟอ่อนให้เป็นวงกลมพอสุกกลับอีกด้านหนึ่งลง
4. ตักแผ่นทองหยิบขึ้นวางในน้ำเชื่อมที่เตรียมไว้ ใช้นิ้วหัวแม่มือ นิ้วกลาง นิ้วชี้ ของมือซ้าย หยิบไข่ ตามด้วยนิ้วหัวแม่มือนิ้วชี้ ของมือขวา หยิบขึ้นใส่ในถ้วยตะไล

***นกไม่มีถ้วยตะไลกะเค้าหรอกนะค่ะ ใช้ถ้วยน้ำจิ้มหาที่เล็กที่สุดเท่าที่จะหาได้ คิดว่าคงพอใช้ได้ละ***


เสร็จจากทองหยิบ นกก็ทำทองหยอดต่อ เพราะน้ำเชื่อมมีอยู่แล้วไม่ต้องไปทำน้ำเชื่อมใหม่นะค่ะ ว่าแล้วก็ลุยกันต่อค่ะเพื่อนๆ






ส่วนผสมทองหยอด
ไข่ไก่ 5 ฟอง
แป้งข้าวจ้าว 1 1/2 ชต
น้ำตาลทราย 6 ถ้วยตวง
น้ำลอยดอกมะลิ 5 ถ้วยตวง

วิธีทำ
1. ผสมน้ำ น้ำตาลทราย ตั้งไฟให้เดือดพอเหนียว ตักน้ำเชื่อมขึ้นไว้ สำหรับลอยทองหยอด ที่เหลือตั้งไฟ
ต่อไปให้น้ำเชื่อมเหนียว
2. แยกไข่แดง ไข่ขาว ออกจากกัน นำไข่แดงตีให้ขึ้น ค่อยๆใส่แป้งข้าวจ้าวลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
3. หยอดไข่ที่ตีแล้วลงในน้ำเชื่อมที่ตั้งอยู่บนไฟ ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลาวงเป็นตัวกำหนด ต้องการลูกเล็กหรือใหญ่ ตามใจชอบ นิ้วหัวแม่มือจะเป็นนิ้วที่ช่วยรูดแป้งลงที่ปลายนิ้ว แล้วจึงสะบัดไข่ลงในน้ำเชื่อม
4. เมื่อทองหยอดสุกลอยขึ้น ตักใส่น้ำเชื่อมที่เตรียมไว้

***แป้งวันนี้นกใช้แป้งข้าวจ้าว ตามสูตรที่แม่ให้มาต้องเป็นแป้งทองหยอดหาไม่ได้เอาแป้งข้าวจ้าวนี้ละ เพราะเห็นหลาย ๆ คนก็ทำกับแป้งข้าวจ้าวกัน ส่วนน้ำเชื่อมนกใช้น้ำเชื่อมที่ทำทองหยิบมาทำทองหยอดต่อ โดยเพิ่มน้ำเปล่าลงไปน้ำเชื่อมอีก 2 ถ้วยนะค่ะ เวลาใส่แป้งข้าวจ้าวค่อยใส่นะค่ะ อย่าเทครั้งเดี่ยว จากนั้นคนให้เข้ากัน อย่าคนนานเดี๋ยวทองหยอดจะแข็งเป็นไตไปนะค่ะ***


มันเทศเชื่อม





ส่วนผสม
มันเทศ ขนาดกลาง 2 หัว
น้ำตาลทราย 1 1/2ถ้วย
น้ำเปล่า 1 ถ้วย
น้ำปูนใส ตามชอบ (นกใช้น้ำปูนใส ปริมาณพอท่วมมันเทศ)
หัวกะทิ 1 ถ้วย
เกลือป่น 1/2 ชช
น้ำมะนาว 1 ชช

วิธีทำ
1. ปลอกเปลือกมันเทศ นำไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นตามขนาดที่ต้องการ
2. นำมันเทศไปแช่น้ำปูนใสไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นจึงเทน้ำปูนใสทิ้ง แล้วนำไปล้างน้ำเปล่าอีกครั้งให้หมดกลิ่นปูน พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
3. นำน้ำตาลและน้ำผสมลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนเตาต้มให้เดือดจนน้ำตาลละลายหมด จากนั้นนำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง
4. นำน้ำเชื่อมที่กรองเรียบร้อยแล้ว ขึ้นตั้งไฟต่ออีกประมาณ 10 นาที และนำมันเทศใส่เชื่อมด้วยไฟอ่อน ๆ จนน้ำเชื่อมเข้าในเนื้อมันเทศมีสีใสเป็นเงา ใส่มะนาวลงค้นให้ทั่วอีกครั้งปิดไฟในเตา ตักมันเชื่อมใส่ถ้วย ราดด้วยหัวกะทิยกเสริฟได้เลยค่ะ

***การใส่มะนาวลงไปนิดหน่อยเพื่อที่จะช่วยไม่ให้น้ำตาลตะกอนและเป็นเกล็ดเวลาน้ำเชื่อมเย็น นะค่ะ จะใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน***

ข้าวเหนียวมะม่วง

มาแล้วจ้า...ข้าวเหนียวมะม่วง อยู่เมืองไทยมะม่วงน้ำดอกไม้มีให้เลือกสวย ๆ หวาน ๆ อร่อยๆ อยู่ต่างแดนจะเลือกซื้อน้ำดอกไม้อร่อยๆ เห็นที่ได้ของแพงแถมไม่หวานอีกต่างหาก ส่วนใหญ่ที่บ้านจะซื้อมะม่วงอินเดียลูกเล็กๆ เหมือนกับมะม่วงแก้วบ้านเรากินนะค่ะ เพราะเคยซื้อลูกใหญ่เขียวๆ แดง ๆ มาทำข้าวเหนียวมะม่วงแล้วไม่อร่อยเลย ถึงแม้ว่าจะนาน ๆ ทำกินสักที่ก็อยากได้อะไรดั่งใจเพื่อน ๆ ว่าจริงๆไม่ค่ะ





ข้าวเหนียว 2 ถ้วย
กะทิ 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย1/2 ถ้วย
เกลือป่น 1 ช้อนชา
ใบเตย ตามชอบ (ถ้ามี)
มะม่วง ตามชอบ

วิธีทำ
1. นำข้าวเหนียวมาล้างน้ำให้สะอาดแล้วแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 3-4 ชั่วโมงหรือทิ้งไว้ข้ามคืนก็ได้
2. เปิดเตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ตั้งหม้อนึ่ง ใส่น้ำลงไป เมื่อน้ำเดือดให้สะเด็ดน้ำข้าวเหนียวขึ้นมา ห่อผ้าขาวบาง ตัดใบเตย(ถ้ามี)วางลงไปแล้วนำไปนึ่ง นึ่งไปประมาณ 30-45 นาที หรือจนกระทั้งข้าวเหนียวสุก 3. นำกะทิใส่ลงในหม้อ ใส่น้ำตาลและเกลือลงไป นำไปตั้งบนไฟอ่อน มัดใบเตย(ถ้ามี)ลงไปในหม้อคนเรื่อยๆ จนน้ำตาลละลาย กะทิเดือดอีกครั้งก็ปิดไฟในเตา
4. ตักข้าวเหนียวที่สุกแล้วใส่ในอ่างผสม เทกะทิร้อนๆ ใส่ลงไป คนเร็วๆ ให้ทั่วแล้วปิดฝาให้ข้าวเหนียวระอุ ประมาณ 15-20 นาที เท่านี้ก็ได้ข้าวเหนียวมูนไว้กินกับมะม่วงแล้วละค่ะ





***นี้เป็นมะม่วงอินเดียที่นกเอามากินกับข้าวเหนียวมะม่วงนะค่ะ หลาย ๆ คนเวลากินข้าวเหนียวมะม่วงจะมีน้ำกะทิราดอีก แต่ของนกไม่ชอบราด เลยไม่ได้ทำไว้ หากเพื่อนๆ คนไหนชอบน้ำกะทิราด นกมีสูตรให้ไว้ง่ายๆค่ะ น้ำกะทิ 3/4 ถ้วย เกลือ หยิบมือ และแป้งข้าวจ้าว 1 ชช. นำทุกอย่างผสมคนให้เข้ากัน จากนั้นนำไปตั้งไฟ คนเรื่อยๆ จนกะทิข้น พอกะทิเดือดก็ปิดไฟในเตาได้ เท่านี้ก็จะได้น้ำกะทิสำหรับราดหน้าแล้วละค่ะ***

ขนมไข่นกกระทา/ขนมไข่เตา

ขนมไข่นกกระทา หรือขนมไข่เตาเป็นขนมไทยโบราณทำกันมานาน จะว่าไปแล้วตั้งแต่เด็กจำความได้ก็เห็นขนมไข่นกกระทา แล้วละค่ะ ฝีมือแม่เป็นหนึ่งไม่รองใครเลยที่เดี่ยว ขนมไข่นกกระทาที่แม่ทำจะใช้แป้งมันเป็นหลัก ซึ่งจะทำให้ขนมไข่นกกระทา กรอบนอกในนุ่มเหนียว แต่นกเคยเห็นมีบางร้านใช้แป้งสาลีเป็นหลัก และใส่นมแทนกระทิก็มีเหมือนกัน นกไม่เคยลองทำสูตรนี้ แต่มีเพื่อนเคยใช้สูตรนี้บอกว่าเนื้อจะแข็งๆ นะค่ะ ขนมไข่นกกระทาบ้านเราจะหาซื้อง่ายตามร้านขายกล้วยทอด มันทอด เผือกทอด ทางข้างทาง ถุงหนึ่ง 10 บาทก็ได้เยอะแล้วละค่ะ



ส่วนผสม
มันเทศ (Sweet Potato) 2 หัว (ประมาณ 500 กรัม)
แป้งมัน 200 กรัม
แป้งสาลี 50 กรัม
น้ำตาลทราย 100 กรัม
ผงฟู 1 ชช
หัวกระทิ 2 ชต
เกลือป่น หยิบมือ
น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ
1 นำมันเทศมาปลอกเปลือกล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้น ๆ นำไปนึ่งจนกระทั้งสุก จากนั้นนำไปบดให้ละเอียด พักไว้จนมันเทศบดเย็น
2 ใส่นำแป้งมัน แป้งสาลี น้ำตาลทราย ผงฟู และเกลือ ลงไปในมันบด นวดให้ส่วนผสมเข้ากัน เติมกระทิลงไปที่ละน้อย นวดจนกระทั้งจับได้เป็นก้อน ๆ จากนั้นนำมาปั้นเป็นลูกกลม ๆ เหมือนกับไข่นกกระทา เล็กใหญ่ตามชอบ
3 ใส่น้ำมันสำหรับทอดลงในกระทะ เปิดไฟในเตาใช้ไฟแรง ใส่แป้งที่ปั้นไว้ลงไปทอด ลดไฟในเตาลงเป็นไฟปานกลาง ใช้ทัพพีโปร่งคนขนมไปมาในกระทะ กดตัวขนมเบา ๆ ทอดจนกระทั้งสุกเหลืองสวยทั่วกัน จากนั้นตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมัน จากนั้นยกเสริฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

***ถ้าแป้งแห้งเกินไปให้เพิ่มหัวกระทิลงไปอีก แต่ถ้าแป้งแฉะเกินให้เพิ่มแป้งมันลงไปอีกนะค่ะ ขนมไข่นกกระทา นอกจากจะปรุงกับมันเทศแล้ว ยังสามารถใช้กับมันฝรั่ง มันสำปะหลัง ฟักทองได้อีกด้วยเช่นกัน***

coffee cupcakes

นกเป็นคนหนึ่งที่ชอบทานเค้กกาแฟเป็นที่สุด ที่ไหนมีเค้กกาแฟขายเห็นก็มักจะซื้อทานเป็นประจำ แต่ไม่เคยลงมือทำกะเค้าสักที เหตุเพราะแฟนคลับไม่ชอบทานเค้กกาแฟเอาเสียเลย เค้าบอกว่าผิดวัฒนธรรม เอากาแฟมาทำอย่างอื่นไม่ได้ จะว่าไปแล้วเค้าเองก็เคยได้ลิ่มลองมาบ้างเวลานกชื้อมาแต่ไม่เคยชอบเลย เมื่อวานนกมีเวลาว่าง เลยคิดลองทำเค้กกาแฟเองดูบ้าง ผลเป็นที่น่าพอใจ แฟนคลับบอกว่า อร่อยมาก ผมคงทานเค้กกาแฟของคุณอีกในครั้งต่อๆ ไป เป็นปลื้มเลยเรา


ส่วนผสม
เนยรสจืด 250 กรัม
น้ำตาล 180 กรัม
แป้งเค้ก 200 กรัม
ผงฟู 1 ชช
ไข่ไก่ขนาดใหญ่ 4 ฟอง
กาแฟสำเร็จรูป 2 ชช ละลายกับน้ำร้อน 1 1/2 ชช
ครีม 100 มิลลิลิตร
เกลือ 1 หยิบมือ

วิธีทำ
1 อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาซี ร่อนแป้งเค้ก+ผงฟู+เกลือ เข้าด้วยกัน
2 ผสมกาแฟที่ละลายแล้วลงในครีม จากนั้นวางถ้วยกระดาษไว้ในถาดมัฟฟิน พักไว้
3 ตีเนยสดให้อ่อนตัว เติมน้ำตาลทรายลงไป ตีต่อจนขึ้นฟู
4 เติมไข่ไก่ทีละฟอง ตีด้วยความเร็วสูงให้เข้ากันดีก่อนเติมฟองต่อไป ตีต่อให้ส่วนผสมเข้ากันดี จากนั้นเปลี่ยนเป็นใช้ความเร็วต่ำ เติมส่วนผสมแป้งสลับกับส่วนผสมครีม โดยเริ่มด้วยแป้งก่อนและปิดท้ายด้วยแป้ง
5 เทส่วนผสมใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ อบประมาณ 20-25 นาที หรือจนกระทั่งสุก ยกออกจากพิมพ์ ทิ้งไว้ให้เย็นบนตะแกรงก่อนนำไปแต่งหน้าตามชอบได้เลยค่ะ

***นกแต่งหน้าไว้สองแบบนะค่ะ เลยเอามาให้ชมทั้งสองแบบ ถ้าเพื่อน ๆ มีแบบแต่งหน้าอื่น ๆ แล้วแต่จะชอบกันนะค่ะ***




ฟักทองเชื่อม (Pumkin in syrup)

นกอดใจที่ทำขนมไทยไม่ได้สักที่ วันนี้ทำอีกแล้วค่ะ รู้ทั้งรู้ว่าทำทีไรกินคนเดียวแต่ก็ยังอยากจะทำอยู่ เมนูนี้ไม่ยากแต่ใช้เวลานานหน่อยเท่านั้นเอง แต่ผลที่ได้บอกคำเดียวคุ้มค่าเกินคำบรรยายเพราะฟักทองมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง เสียดายแต่ไม่ใช้ฟักทองไทย นี้ถ้าได้เป็นฟักทองไทยเนื้อแน่น ๆ ต้องอร่อยกว่านี้แน่นนอนเลย




ฟักทอง ขนาดกลาง 1ลูก
น้ำตาลทราย 250 กรัม
น้ำเปล่า 450 กรัม
น้ำปูนใส (สำหรับแช่ฟักทอง)

วิธีทำ
1 นำฟักทองไปทำความสะอาด และหั่นเป็นชิ้นๆ จากนั้นนำไปแช่น้ำปูนใสประมาณครึ่งชั่วโมง ครบกำหนดนำขึ้นมาล้างน้ำและผึ่งฟักทองให้แห้งสะเด็ดน้ำ
2 ใส่น้ำเปล่า, น้ำตาลทรายและน้ำมะนาวลงในกระทะ นำขึ้นตั้งบนเตาไฟร้อนปานกลางต้มจนน้ำตาลละลายหมดจึงใส่ฟักทองลงไปเชื่อม พลิกกลับชิ้นฟักทองบ้างนาน ๆ ครั้ง
3 พอน้ำตาลเริ่มข้น ให้ลดไฟลงเชื่อมจนชิ้นฟักทอง มีลักษณะเป็นเงาใส ปิดไฟในเตา พักให้ฟักทองเย็นจากนั้นตักใส่ถ้วยยกเสริฟได้เลย จะราดกระทิ หรือจะใส่น้ำแข็งแล้วแต่ชอบค่ะ
****วันนี้นกไม่ได้ทำน้ำกระทิราดแตถ้าใครชอบแบบราดน้ำกระทิ แต่ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการน้ำกระทิราดนกก็มีส่วนผสมมี น้ำกระทิ 100 กรัม เกลือ 1/2 ชช และแป้งข้าวเจ้า 1/2 ชต จากนั้นนำทุกอย่างใส่หม้อผสมเข้าด้วยกัน ตั้งบนไฟอ่อนๆคนจนเข้ากันดี ปิดไฟและพักไว้ ก็จะได้น้ำกระทิราดฟักทองแสนอร่อยแล้วละค่ะ***

ขนมฟักทอง(butternut squash)

ต้นเหตุเกิดเพราะซื้อฟักทองลูกโต จริงๆ แล้วลูกเล็กเค้าก็มีขายไม่ใช่ไม่มี แต่เค้าดันขายราคาเดียวกันเลยเลือกเอาลูกโตๆ ไว้ก่อน เลือกแล้วเลือกอีกจนแฟนคลับถามว่าคุณจะซื้อกี่ลูก เห็นเลือกดูหลายลูกจัง ซื้อลูกเดียวแต่ฉันจะเอาที่ใหญ่ที่สุดแบบว่า"งง"นะค่ะ หลังจากที่ทำแกงไปแล้วส่วนหนึ่ง ยังเหลืออีกเลยเอามานึ่งขนมเสียเลย งานนี้กินคนเดียวเหมือนเดิม แต่ยังดีหน่อยทำขนมไทยทุกครั้งแฟนคลับจะชิม 1 คำทุกครั้ง ตามด้วยคำตอบว่า ไม่ชอบ ไม่เป็นไรขนมนี้ไม่ชอบต้องมีสักอย่างที่ชอบจนได้ สู้ ๆๆ


ส่วนผสม
Butternut Squash นึ่งบด 1 ถ้วย
แป้งข้าว 1 ถ้วย
แป้งมัน 1/3 ถ้วย
กะทิ 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย
มะพร้าวขูด ตามชอบ
เกลือป่น 1 หยิบมือ

วิธีทำ
1 ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำตาล และเกลือเข้าด้วยกันจากนั้นค่อย ๆ เทกะทิลงไปนวดจนส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกันจนกะทิหมด
2 ใส่ Butternut Squash ที่บดแล้วลงไปผสมกับแป้งคนให้เ้ข้ากัน จากนั้นหยอดลงในถ้วยโรยมะพร้าวพร้อมลงนึ่ง
3 นำถ้วยใส่ในลังถึง ลงนึ่งในน้ำเดือดประมาณ 20 นาที หรือจนขนมสุกได้ที่ยกลงพักไว้จนเย็นแกะออกจัดใส่จานเสริฟได้เลยค่ะ

***ถ้าใครไม่ชอบฟักทองจะเปลี่ยนเป็นเผือก กล้วยก็ได้แล้วแต่จะเลือกกันค่ะ สำหรับนกวันนี้ขอเป็นฟักทองไปก่อนค่ะ***

คุ๊กกี้ครีมชีสไส้แยม

วันนี้นกทำคุ๊กกี้ไปฝากเพื่อนๆ แฟนคลับที่ทำงานย้อนหลังวันแห่งความรักนะค่ะ นกจำได้ปีที่แล้วนกทำขนมดอกลำดวน/กลีบลำดวนขายดีมาก ๆ จริงๆ ตั้งใจจะทำอีกรอบ แต่ดันทำให้ตอนคริสต์มาสที่ผ่านมา เลยต้องเปลี่ยนแผน จริงๆ แล้วจะทำคุ๊กกี้คาวบอยให้ แต่แฟนคลับบอกอยากกินคุ๊กกี้นี้เลยทำตามใจแฟนคลับนะค่ะ



ส่วนผสม
ครีสชีส 200 กรัม
เนยจืด 150 กรัม (ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง)
น้ำตาลทราย 2 ชต
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ถ้วย
เกลือ 1 หยิบมือ
วาลิลา 1 ชช
แยมตามชอบ

วิธีทำ
1.ตีครีมชีสและ เนยจืดให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีม จากนั้นเติมน้ำตาลทราย เกลือ ตีต่อให้ขึ้นฟูจากนั้เติมวาลิลาลงไปตีต่ออีกประมาณ 2-3 นาที
2.เติมแป้งลงไป 1/2 ถ้วย ผสมให้เข้ากันจนหมดแป้ง จากนั้นนำแป้งที่เหลือลงไปผสมต่อ ที่ละ 1/2 ถ้วยลงหมดแป้ง จากนั้นปั่นแป้งให้เป็นก้อนกลม ๆ คลุมด้วยพลาสติก จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็นอย่างน้อย 2-3 ชม
3.ครบกำหนดโรยแป้งบนโต๊ะนำโดว์ออกมาคลึงเป็นแผ่นบางๆ ตัดเป็นสี่เหลี่ยมด้านเท่าขนาดเล็กใหญ่ตามชอบ (นกใช้ 3*3 ชม) จากนั้นตักแยมใส่ลงกลางแป้งพับมุมทั้งสองข้างซ้อนเข้าหากัน ทาน้ำลงบนแป้งแล้วกดให้แน่น นำเข้าเตาอบ อบให้เหลืองสุกประมาณ 15-20 นาที หรือจนกว่าแป้งจะสุก เอาออกมาพักบนตะแกรงให้เย็นจากนั้นเก็บใส่ในภาชนะปิดให้สนิท

ขนมกลีบลำดวน/ดอกลำดวน

ขนมกลีบลำดวน หรือดอกลำดวน ขนมหวานมงคลของไทยเราที่นิยมใช้ในงานพิธีมงคลสมรส หรือเป็นของฝากในเทศกาลต่างๆ สำหรับที่บ้านส่วนใหญ่แล้ว นกจะทำวันสำคัญ ๆ ให้คู่กับของขวัญเสมอ ปีแรกที่นกทำให้กับญาติพี่น้อง แฟนคลับ และเพื่อน ๆ ในวันคริสต์มาส ทุกคนชอบใจใหญ่ คงไม่เคยเห็นมั่งค่ะ นกเคยอ่านหนังสือจำไม่ได้ว่าอ่านจากไหนเพราะอ่านเยอะ เค้าให้ความหมายว่า เป็นการสร้างความงดงามให้กับชีวิต ชื่อเสียงขจรขจายไปทั่ว จำได้ว่าเด็ก ๆ แม่เอามาให้ดู ดอกเป็นสีเหลืองนวล ๆ มีกลิ่นหอมเย็น ๆ ทางบ้านแม่จะเรียกดอกลำดวนว่า หอมนวล



ส่วนผสม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ ๑ ถ้วย
น้ำตาลไอซิ่ง 1/2 ถ้วย
น้ำมันพืช 6 ชต
กลิ่นดอกมะลิ 1/2 ชช (ไม่มีเทียนอบเลยใช้กลิ่นมะลิแทน)

วิธีทำ
1.ร่อนแป้งสาลี และน้ำตาลไอซิ่งรวมกัน
2.ใส่น้ำมันพืชทีละน้อย แล้วนวดให้เข้ากัน จากนั้นปั้นเป็นลูกบอลกลม ๆ ขนาดเล็กใหญ่ตามชอบ
3.เอามีดหั่นลูกบอล แบ่งเป็น 4 ส่วนเท่าๆกันหยิบกลีบออกมา 3 กลีบ ตั้งลงบนถาดที่รองด้วยกระดาษไขสำหรับอบ หรือถาดทาเนยขาว จากนั้นปั้นลูกบอลกลมๆขนาดเล็กอีกลูกหนึ่งเอาไว้เป็นเกษร ติดด้านบนกลีบทั้ง 3 ทำอย่างนี้ไปจนหมดแป้ง
4.นำเข้าอบที่ 180 องศาเซลเซียส นาน 10 ถึง 15 นาที หรือจนกระทั้งขนมสุกเหลือง


***เวลาเอาออกจากเตาอบ ตั้งพักให้เย็นก่อนแล้วค่อยแซะออก ไม่งั้นกลีบดอกจะหลุดออกจากกันนะคะ จากนั้นนำใส่ในขวดโหล อบด้วยควันเทียนหอม***

คัฟเค้กGrapefruit

ตอนเย็นก่อนกลับบ้านนกให้แฟนคลับช่วยแวะไปซุปเปอร์ซื้อแครอท กับไข่ไก่ให้หน่อย ตอนกลับเข้าบ้านมาแฟนคลับมาพร้อมกับของที่สั่งให้ซื้อแต่ของแถมติดมือเป็น Grapefruit อีก 4 ผลใหญ่ๆ เลยค่ะ แฟนคลับซื้อมาฝากเห็นว่าเราชอบกิน แหมน่ารักจริงๆ เลย แต่ซื้อมาเยอะจังอย่างนี้กินไม่ทันหรอกจ้าที่รัก นกเลยแบ่งออกมาทำคัฟเค้ก เอาไปฝากพ่อแม่วันหยุดนี้เสียเลย



ส่วนผสม
ไข่ไก่ขนาดกลาง 4 ฟอง (แยกไข่แดง-ไข่ขาว)
น้ำตาลทราย 1 1/3 ถ้วย (แยกออกเป็น 1 ถ้วย และ 1/3 ถ้วย)
ผงฟู 1 ชต
แป้งเค้ก 2 ถ้วย
น้ำมัน 5 ชต
เกลือ 1 หยิบมือ
นม 1/4 ถ้วย
น้ำเกรปฟรุต 2/3 ถ้วย
แยมผลไม้ (Grapefruit) ตามชอบ
วิธีทำ
1.แยกไข่แดง และไข่ขาวออกจากกัน เอาไข่ขาวที่แยกไว้ใส่อ่างผสมเริ่มตีจากความเร็วต่ำแล้วเร่งสปีดขึ้นเรื่อยๆ จากนั้น ค่อยๆใส่น้ำตาลทรายทีละ 1 ชต ขั้นตอนนี้ใส่น้ำตาลแค่ 1/2 ถ้วย ตีไปจนน้ำตาลหมดไข่ขาวขึ้นฟู ตั้งยอดอ่อน พักไว้
2.ผสม แป้ง ผงฟู เกลือ น้ำมัน นม น้ำเกรปฟรุต ไข่แดง และน้ำตาลที่เหลือเข้าด้วยกัน ใช้ตะกร้อมือคนส่วนผสมให้เข้ากัน
3.เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วใส่ไข่ขาวที่ตีขึ้นฟูไว้ลงในชามส่วนผสมของแป้ง แล้วใช้ตะกร้อมือตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง เมื่อเข้ากันดีตักใส่ถ้วยกระดาษ เอาเข้าเตาอบ อบประมาณ 20-25 นาที หรือพอให้เค้กหน้าเหลืองสวย พออบเสร็จแล้ว พักเค้กให้เย็นจากนั้นใช้มีตัดหน้าเค้กเล็กน้อยใส่แยมลงไปตรงกลางเค้ก เอาเค้กส่วนเดิมที่ตัดไว้มาปิดทับ หรือจะใช้แยมราดหน้าเค้กก็ได้เช่นกันค่ะ

***นกคิดว่าหลาย ๆ คนคงรู้จักเกรปฟรุตเป็นอย่างดี แต่ก็มีอีกหลาย ๆ คนไม่รู้จัก เกรปฟรุตเป็นผลไม้เกรปฟรุต เป็นไม้ผลกึ่งเขตร้อน สหรัฐอเมริกากลายเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ เลยที่เดียวเท่าที่รู้มานะค่ะ แถว ๆ บ้านเราที่ปลูกก็มีจีน เวียดนาม มาเลเซีย และ ไต้หวัน เกรปฟรุตเป็นลูกผสมระหว่างส้มโอและส้ม ลำต้นคล้ายกับต้นส้มทั่วไปๆ ใบบางมีกลิ่นหอม ดอกออกเป็นช่อสีขาวผลมีขนาดเล็กกว่าผลส้มโอแต่ขนาดใหญ่กว่าส้ม เปลือกหนาสีเหลือง ส่วนใหญ่ที่นี้กินเกรปฟรุตตอนอาหารมื้อเช้า โดยจะนำเกรปฟรุตมาผ่าแบ่งครึ่งตามขวางกลางลูก แล้วโรยด้วยน้ำตาลหรือน้ำผึ้ง ใช้ช้อนตักกินตามชอบ หรือไม่ก็จะนำไปกินเป็นฟรุตสลัด แยมผลไม้ ในภาษาสเปนจะเรียกเกรปฟรุตว่า Toronja หรือ Pomelo นะค่ะ (รูปภาพนี้นกได้มาจาก Google)




คัฟเค้กส้มมาร์มาเล็ด

วันเสาร์-อาทิตย์หากไม่ได้ออกไปไหน มีเวลาว่างตอนกลางวัน แฟนคลับดูฟุตบอล นกมีเวลามักทำขนมไม่ว่าจะเป็นขนมไทย หรือขนมฝรั่ง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นขนมฝรั่งเสียมากกว่า เพราะทำแล้วมีคนกินหลายคน ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ และเพื่อน ๆ ที่ทำงานของแฟนคลับ ส่วนขนมไทยทำที่ไรกินคนเดียวทุกที แต่ขนมไทยก็ไม่ได้ขาดบ้านหรอกนะค่ะถึงแม้จะกินคนเดียวก็ตาม



ส่วนผสม
ไข่ไก่ขนาดกลาง 4 ฟอง (แยกไข่แดง-ไข่ขาว)
น้ำตาลทราย 1 1/3 ถ้วย (แยกออกเป็น 1 ถ้วย และ 1/3 ถ้วย)
ผงฟู 1 ชต
แป้งเค้ก 2 ถ้วย
น้ำมัน 5 ชต
เกลือ 1 หยิบมือ
นม 1/4 ถ้วย
น้ำส้ม 2/3 ถ้วย
ผิวส้ม ตามชอบ

วิธีทำ
1.แยกไข่แดง และไข่ขาวออกจากกัน เอาไข่ขาวที่แยกไว้ใส่อ่างผสมเริ่มตีจากความเร็วต่ำแล้วเร่งสปีดขึ้นเรื่อยๆ จากนั้น ค่อยๆใส่น้ำตาลทรายทีละ 1 ชต ขั้นตอนนี้ใส่น้ำตาลแค่ 1/2 ถ้วย ตีไปจนน้ำตาลหมดไข่ขาวขึ้นฟู ตั้งยอดอ่อน พักไว้
2.ผสม แป้ง ผงฟู เกลือ น้ำมัน นม น้ำส้ม ผิวส้ม ไข่แดง และน้ำตาลที่เหลือเข้าด้วยกัน ใช้ตะกร้อมือคนส่วนผสมให้เข้ากัน
3.เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วใส่ไข่ขาวที่ตีขึ้นฟูไว้ลงในชามส่วนผสมของแป้ง แล้วใช้ตะกร้อมือตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง เมื่อเข้ากันดีตักใส่ถ้วยกระดาษ เอาเข้าเตาอบ อบประมาณ 20-25 นาที หรือพอให้เค้กหน้าเหลืองสวย พออบเสร็จแล้ว พักเค้กให้เย็นจากนั้นใช้มาร์มาเลดแยมราดหน้าเค้กตามชอบได้เลยค่ะ

ขนมโมจิ

ขนมโมจิถ้าจะพูดไปแล้วต้นตำรับเป็นของญี่ปุ่น แต่คนไทยเอามาดัดแปลงให้เป็นแบบไทย ๆ แหล่งขนมโมจิดัง ๆ ก็ต้องเป็นนครสวรรค์ผ่านไปต้องซื้อหาติดมาด้วยเป็นประจำ นกละคิดถึงขนมโมจิตั้งใจจะทำอยู่หลายวันแล้วละค่ะ แต่ติดที่ไส้ถั่วกวน เพราะลืมซื้อถั่วทุกที่ ครั้งนี้ไปช๊อปฯ นกเขียนรายการที่ต้องการไปเลย พอได้ถั่วเขียวก็จัดการแช่น้ำเลย ได้ของครบแล้วลงมือทำขนมโมจิกินกับกาแฟยามบ่ายในวันที่ฝนตกลมแรง ได้อะไรกินอะไร อร่อยๆ ทำให้มีความสุขไปได้เหมือนกันเพื่อน ๆ ว่าจริงๆไม่ค่ะ




ส่วนผสม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 300 กรัม
นมข้นหวาน 150 กรัม
น้ำตาลทรายละเอียด 50 กรัม
Bicarbonate of soda 1 ชช
Baking powder 1 ชช
Vanilla extract 1 ชช (ถ้ามี)
เนยจืดละลาย 50 กรัม
ไข่ไก่ตีให้ขึ้นฟู 1ฟอง
เกลือ หยิบมือ
แป้งสาลีอเนกประสงค์ สำหรับทำแป้งนวล
ไส้ถั่วกวน ปั้นเป็นลูกกลม ๆ ตามชอบ
ผลไม้เชื่อม/ผลไม้แห้งหั่นชิ้นเล็ก ตกแต่งหน้า ตามชอบ

วิธีทำ
1 ร่อนแป้งสาลี Bicarbonate of soda และเกลือ เข้าด้วยกัน 2 ครั้งพักไว้
2 ผสมน้ำตาลทรายกับนมสดในอ่างผสม คนให้น้ำตาลทรายละลายดี
3 ผสมเนยละลาย นม และไข่ไก่ลงในอ่างผสม ตามด้วยแป้งที่ร่อนแล้ว คนให้เข้าจนเป็นเนื้อเดียวกัน หากแป้งเนื้อเละให้ผสมแป้งเพิ่มที่ละนิดอย่าใส่เยอะจนเกินไป จากนั้นใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำบิดให้หมาด ๆ คลุมแแป้งพักไว้ ประมาณ 1 ชม
4 ครบกำหนด 1 ชม เอาแป้งมาแบ่งปั่นเป็นก้อนกลม ๆ ขนาดเท่า ๆกัน นวดให้เนียน แผ่งแป้งออกให้บาง บรรจุไส้ถั่วกวนห่อให้มิด วางบนถาดที่ทาด้วยเนยพร้อมอบ ตกแต่งหน้าด้วยผลไม้เชื่อม
5 นำขนมเข้าอบที่อุณหภูมิ 170 องศาซี ประมาณ 15 นาที หรือจนกระทั้งขนมสุกสวย

ไส้ถั่วกวน
ส่วนผสม
ถั่วเขียวนึ่งบดละเอียด 300 กรัม
น้ำตาลทราย 100 กรัม
น้ำกระทิ 150 กรัม

วิธีทำ
1 นำถั่วเขียวบดละเอียด น้ำตาลทราย น้ำกระทิ ใส่กะทะผสมเข้าด้วยกัน
2 ยกกะทะขึ้นตั้งบนเตา เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลาง กวนจนกระทั่งร่อนจากกะทะ ตักขึ้นจากเตาพักให้เย็น ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ พักไว้
3 นำแป้งที่เตรียมไว้ มาหุ้มไส้ให้เรียบร้อย

***หากต้องการใส่สีให้ใส่ช่วงทีผสมเนย นมและไข่ไก่ จะได้สีผสมที่เข้ากันจากนั้นใส่แป้งลงไป เวลาอบให้วางขนมให้ระยะห่างกัน เพราะขนมจะขยายตัว อบเสร็จแล้วขนมจะตัวขนมแข็งๆ ไม่ต้องตกใจ พักให้เย็นเก็บใส่กล่องเปิดฝาทิ้งไว้ตัวขนมจะนิ่มขึ้นมาเอง เท่านี้เราก็ได้ขนมโมจิหอมหวานอร่อยนุ่ม ๆ กินกับชา กาแฟยามบ่ายแล้วละค่ะ***





ลูกชุบ

ครั้งแรกกับการประดิษฐ์ประดอยทำขนมลูกชุบ ขอบอกว่าประทับใจสุด ๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะทำออกมาได้ดีขนาดนี้ อยู่เมืองไทยได้แต่ซื้อเค้า หยิบกินไม่กี่ที่ก็หมด เคยคิดสงสัยคงทำยากเลยแพง แต่มาถึงวันนี้ นกคิดว่ามันไม่ได้ยากอย่างที่คิดเอาไว้เลย เพียงแต่ต้องอดทนกับขั้นตอนในการทำเท่านั้นเอง



ส่วนผสม
ถั่วเขียวเราะเปลือก 400 กรัม
กะทิกระป๋อง 2 กระป๋อง
น้ำตาลทราย 2 1/2 ถ้วย
วุ้นผง 2 ชช
น้ำลอยดอกมะลิ 2 ถ้วย (นกไม่มีเลยใชกลิ่นมะลิแทน)
ไม้เสียบลูกชิ้น
สีผสมอาหาร
พู่กัน
จานผสมสี

วิธีทำ
1. ล้างถั่วให้สะอาด แช่น้ำประมาณ 2-3 ชั่วโมง จากนั้นนำถั่วที่แช่มานึ่งให้สุก (สังเกตว่าเม็ดถั่วจะบานๆออกมาก็ใช้ได้แล้วค่ะ)
2. นำกะทิผสมถั่วนึ่งสุก แบ่งลงปั่นในเครื่องปั่นให้ละเอียด
3. ตั้งกระทะบนเตาใช้ไฟร้อนค่อนข้างแรงจากนั้นเทถั่วปั่นลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย ตั้งไฟให้เดือด กวนตลอดเวลา พอเริ่มเหนียวให้ลดไฟให้เบาลงเคี่ยวไปจนกว่าถั่วจะแห้งร่อนไม่ติดกระทะ เสร็จแล้วยกลงจากเตาปล่อยให้เย็น จนพอปั้นได้จึงนวดให้เข้ากัน จากนั้นนำมาปั่นตามรูปที่ต้องการ แล้วเสียบลงบนไม้เสียบลูกชิ้นรอไว้
4. เมื่อปั้นจนแป้งหมดแล้ว ก็ระบายสีตามชอบ ระบายสีเสร็จก็เริ่มนำไปชุบวุ้น (ให้เรียงลำดับไปทีละแถว ทำอย่างน้อย 2-3รอบ หรือทำจนวุ้นเคลือบได้เงาหนาสวย) ทิ้งไว้จนวุ้นจับตัวได้ที่เอาออกจากไม้เสียบลูกชิ้นจัดใส่จานเสริฟได้เลยค่ะ

***วิธีทำวุ้น ให้ผสมวุ้นกับน้ำกลิ่นมะลิหยดลงในหม้อ คนให้เข้ากัน จากนั้นนำขึ้นตั้งบนเตาใช้ไฟกลาง คนตลอดเวลาจนกระทั่งวุ้นใสเป็นมัน เหนียวพอติดพาย ก็เป็นอันใช้ได้ ลดให้เหลือไฟอ่อนๆ พอให้วุ้นอุ่น ๆ***

ขนมปังฝรั่งเศส


ส่วนผสม
แป้งขนมปัง 3 ถ้วย (Strong White Flour)
ยีส 1 ซอง (7 กรัม)
น้ำอุ่น 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 2 ชต
Olive Oil 2 ชต (ถ้าไม่มีใช้น้ำมันพืชทั่วไปก็ได้ค่ะ)
เกลือ 1 ชช
ไข่ผสมน้ำเจือจาง เอาไว้ทาขนมปัง (จะทาก็ได้ไม่ทาก็ได้ค่ะ)

วิธีทำ
1. ใส่น้ำอุ่นใส่แก้ว ใส่ยีสต์ และน้ำตาลลงไปจากนั้นคนให้เข้ากันพักไว้ให้ยีสต์ทำงาน (ประมาณ 5นาที )
2.ใส่แป้งลงในอ่างผสมจากนั้นทำหลุมตรงกลาง เทส่วนผสมยีสต์ลงไป ค่อยๆตะล่อมแป้ง นวดให้เป็นเนื้อเดียวกันจนเนียน เมื่อแป้งเนียนได้ที่เอาออกจากอ่างผสม คลึงแป้งเป็นลูกกลม ๆ
3.หาอ่างผสมอีกใบ ทาเนยให้ทั่วอ่าง แล้วใส่แป้งที่เรานวดคลึงเป็นก้อนกลมๆลงไปในอ่าง หาผ้าสะอาด หรือพาสติกมาคลุมไว้ จากนั้นนำอ่างแป้งไปวางไว้ในที่อุ่นๆ พักจนแป้งขึ้นเป็นสองเท่า (หมักทิ้งไว้ประมาณ 1 ชม)
4.เมื่อแป้งขึ้นเต็มที่ ให้เอากำปั้นกดแป้งลงไปไล่ลม แล้วหยิบแป้งขึ้นมาคลึงทำเป็นก้อนกลมๆรีๆ จากนั้นเอาแป้งวางบนถาดสำหรับที่จะนำเข้าเตา หมักแป้งต่ออีกเป็นให้แป้งจะขึ้นเป็นสองเท่า (ประมาณ 45-50 นาที)5.ระหว่างที่หมักแป้งเปิดเตาอบที่ 170 C พอแป้งขึ้นเต็มที่แล้ว ใช้มีคคม ๆ กรีดขนมปังสามกรีด
แล้วทาด้วยไข่ผสมน้ำเจือจาง นำเข้าเตาอบ อบขนมปังไปนานประมาณ 20 นาที หรือจนขนมปังเป็นสีน้ำตาลสวย จากนั้นเอาออกจากเตาอบ พักบนตะแกง พร้อมเสริฟได้เลยค่ะ

***วันนี้นกทำสองแบบ ธรรมดา กับโรยงา ถ้าต้องการจะโรยงาให้โรยหลังจากทาไข่ผสมนม จากนั้นเอาเข้าเตาอบได้เลย***


ข้าวเหนียวถั่วแดงต้มกระทิ

ถั่วแดงเม็ดโต ที่นี้เรียกว่า Red Kidney Beans นกซื้อเอาไว้นานแล้วละค่ะ คนที่นี้เค้าเอาปรุงอาหารชื่อ Chili Con Carne แต่นกไม่กินเนื้อ เลยไม่ได้ทำ ตอนที่ซื้อกะจะลองเอามาทำถั่วแดงกวน ไว้ทำซาลาเปาไส้ถั่วแดง แต่ไป ๆ มา ๆ ไม่ได้ทำสักกะที อยู่ในตู้นานแล้วเลยเปลี่ยนใจมาเป็นข้าวเหนียวถั่วแดงดีกว่า เหตุผลหรือค่ะ เพราะความยากเหมือนเดิมงานนี้กินคนเดียวตามระเบียบ แฟนคลับนกไม่ชอบขนมหวานไทยบอกว่ามันแปลก ๆ แปลกตรงไหนยังหาคำตอบไปได้สักที่ อ๋อเกือบลืมไปค่ะ ถั่วแดงที่นี้เม็ดโตมาก ๆ ไม่เหมือนถั่วแดงหลวงอย่างบ้านเราหรอกค่ะ รสชาดต่างกันไม่ บอกได้ว่าต่างกัน อร่อยไปคนละแบบ เพื่อนๆ ลองทำดูนะค่ะ




ส่วนผสม
กะทิสำเร็จรูป 1 1/2กระป๋อง
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
เกลือป่น หยิบมือ
ถั่วแดงต้มสุก 2 ถ้วย
ข้าวเหนียวมูน 2 ถ้วย
น้ำเปล่า เล็กน้อย ( จะใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้)

วิธีทำ
1.เอากะทิสำเร็จรูป น้ำตาล น้ำ และเกลือป่น ใส่หม้อนำขึ้นตั้งไฟใช้ไฟแรงพอน้ำกระทิเดือด เติมถั่วแดงต้มสุกลงไป คนให้เข้ากัน ชิมรสหวานตามชอบอีกครั้ง เดือดอีกครั้งปิดไฟในเตาพักไว้
2 ตักข้าวเหนียวมูนใส่ถ้วย ราดด้วยถั่วแดงต้มกะทิที่เตรียมไว้ ยกเสริฟได้เลยค่ะ จะทานตอนร้อน ๆ หรือเย็นตามชอบ

*** น้ำเปล่าใส่เล็กน้อยถ้ากะทิข้นเกินไป ส่วนข้าวเหนียวถ้าไม่ชอบข้าวเหนียวมูล จะใช้ข้าวเหนียวนึ่งก็ได้เช่นเดียวกัน***

กล้วยหอมทอด



ส่วนผสม
กล้วยหอมสุกผ่าครึ่ง 5 ผล
แป้งสาลี 1 ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
น้ำตาลทราย 2 ชต
น้ำมันเนยละลาย 3 ชต
ผงฟู 1 ชช
น้ำมันพืช 2 ถ้วย
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย

วิธีทำ
1. ตอกไข่ใส่ชามผสมก้นลึก ตามด้วยน้ำตาลทราย เนยละลาย ผงฟู ตีส่วนผสมทั้งหมดให้ละลายเข้ากัน
2. ใส่แป้งสาลีลงไป ค่อยๆ เทน้ำเปล่าที่ละนิดลงไปตีแป้งให้ละลายกับน้ำแล้วก็หยุดเติมน้ำ ระวังอย่าให้แป้งเหลวจนเกินไป
3. เอาน้ำมันใส่กระทะตั้งบนเตาใช้ไฟค่อนข้างแรง พอน้ำมันร้อน นำกล้วยหอมลงชุบกับแป้ง แล้วทอดในน้ำมันจนกระทั้งสุกเหลืองสวย จากนั้นตักใส่จานเสิร์ฟร้อนๆ พร้อมน้ำตาลไอซิ่ง หรือ น้ำผึ้ง ตามชอบ

ขนมหัวล้าน

นกไม่รู้ว่าที่อื่นเรียกขนมนี้ว่าอะไรกันบ้าง แต่ที่บ้านนกเรียกว่าขนมหัวล้าน เป็นขนมของทางปักษ์ใต้ ขนมหัวล้านนี้จะนึ่งหรึอต้มแล้วนำไปราดน้ำกระทิ แล้วแต่ใครจะถนัดแบบไหน นอกจากราดน้ำกระทิแล้ว บางคนก็จะนำไปทอด ถ้านำไปทอดจะเรียกว่าขนมหัวล้านทอด หรือขนมมด



ส่วนผสมไส้
ถั่วเขียวเราะเปลือก 1 ถ้วย
น้ำตาล 1 ถ้วย
น้ำกะทิ 1 ถ้วย
เกลือ หยิบมือ

ส่วนผสมตัวแป้ง
แป้งข้าวเหนียว 250 กรัม
น้ำอุ่น 1 ถ้วย (ค่อยๆรินใส่นะคะ ถ้าไม่พอให้เติมน้ำลงไปอีก)

ส่วนผสมกะทิสำหรับราดขนม
หัวกะทิ 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 2ชต
เกลือ หยิบมือ

วิธีทำ
1.ล้างถั่วให้สะอาด แช่น้ำค้างคืนไว้ 1 คืน พอครบกำหนดนำถั่วที่แช่น้ำล้างให้สะอาดจากนั้นนำไปนึงให้สุกพักไว้ให้เย็น
2. นำถั่วที่นึ่งสุกแล้วมาบดให้ละเอียด จากนั้นนำถั่วที่บดละเอียดใส่ลงในหม้อพร้อมกับกะทิ น้ำตาล และเกลือ กวนส่วนผสมให้เข้ากันจนเหนียวจนสามารถปั้นได้ จากนั้นยกลงจากเตาพักไว้ให้เย็น แล้วปั้นเป็นก้อนกลมขนาดเล็กใหญ่ตามชอบ ใส่จานพักไว้เป็นไส้
3.นวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำอุ่น นวดจนกระทั้งแป้งไม่ติดมือ ปั้นเป็นก้อนๆไว้สำหรับห่อ จากนั้นไส้แล้วห่อไส้ให้เรียบร้อย พยายามให้แป้งหนาสักหน่อย จะได้ห่อง่าย พอห่อไส้ครบทุกลูกแล้ว ให้เอาหม้อใส่น้ำ พอน้ำเดือดเอาขนมลงต้ม ขนมลูกที่สุกแล้วจะลอยน้ำขึ้นมา ตักขึ้นใส่ถ้วยพักไว้
4. ทำน้ำกะทิสำหรับราดขนม ให้เอากะทิ น้ำตาล และเกลือ ใส่หม้อ ตั้งบนเตาใช้ไฟปานกลางค่อนข้างแรง คนให้น้ำตาลละลาย ชิมรสตามชอบ พอน้ำกะทิเดือดเปิดไฟในเตาพักไว้ จากนั้นตักขนมใส่ถ้วยราดด้วยน้ำกะทิยกเสริฟได้เลย จะทานร้อน หรือเย็นก็ได้ตามชอบ

ฟักทองนมสม (Butternut Squash)

นกกลัวว่าเพื่อน ๆ ยังหวานกันไม่เต็มที่ วันนี้เลยทำของหวานอีกเมนูค่ะ แต่เปลี่ยนจากกระทิมาเป็นนมสด เอาใจเพื่อนสมาชิกที่ไม่ชอบกระทิกันนะค่ะ แต่สำหรับนกแล้วอะไรก็ได้ชอบเหมือนๆ กันนะค่ะ จะว่าไปแล้วเมนูนี้อุดมไปด้วยสารอาหารจริง ๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นฟักทอง หรือ นมสด โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟักทองมีสารเบต้าแคโรทีน ช่วยลดโอกาสการเกิดมะเร็ง พูดเสียเยอะอยากรู้แล้วใช้ไม่ละว่าปรุงกันอย่างไร



ส่วนผสม
ฟักทอง (butternut squash ) หั่นชิ้นพอคำ 1 ถ้วย
นมสด 1 1/2 ถ้วย
น้ำตาล 1/2 ถ้วย
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
เกลือ (หยิบมือ

วิธีทำ
1.เอาน้ำใส่หม้อ ตั้งไฟร้อนปานกลาง พอน้ำเดือดใส่น้ำตาลลงคนให้ละลาย
2.นำฟักทองที่หั่น นมสด เกลือ ใส่ลงในหม้อต้มจนฟักทองสุก ชิมรสตามชอบ จากนั้นปิดไฟในเตาตักใส่ถ้วยยกเสริฟได้เลยคะ

บวดคง (บวดข้าวโพด)

นานแล้วละค่ะที่นกไม่ได้ทำขนมหวานไทยเลย ช่วงนี้หนาวเลยทำแต่พวกซุปเสียส่วนใหญ่ อยู่ ๆ คิดถึงของหวานเสียเหลือเกินโดยเฉพาะ พวกใส่น้ำกระทิ ยิ่งเป็นกระทิคั่นสด ๆ ละก็ได้ใจเลยละ แต่นั้นละมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอย่างนี้จะหาจากไหนนอกจากกระทิกระป๋องเท่านั้นละ คิดแล้วกลุ้ม ว่าแล้วเข้าครัวเถอะค่ะ





ส่วนผสม
ข้าวโพดแกะเม็ด 1 กป
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
กะทิ 1 กป (แยกหัวกระทิ หางกระทิ)
เกลือป่น หยิบมือ
วิธีทำ
1. เอาหม้อใส่หางกระทิตั้งบนเตา ใช้ไฟแรง คนจนไปเรื่อย ๆ จนกระทั้งกระทิเดือด
2.ใส่ข้าวโพดลงไปต้มประมาณ 10 นาที ใส่น้ำตาลทรายต้มจนน้ำตาลละลาย
3. ใส่หัวกระทิ และเกลือ ลงไปชิมรสหวานตามชอบ ต้มให้เดือดสักพักปิดไฟในเตาตักใส่ถ้วยยกเสริฟได้เลย

***ความหวานแล้วแต่ใครจะชอบหวานมากหวานน้อยนะค่ะ สูตรที่นกให้กำลังพอดีกับความหวานแบบปานกลางนะค่ะ (เอารสตัวเองเป็นหลักนะค่ะ) ถ้าต้องการหวานเยอะเพิ่มน้ำตาลลงไปอีกนะค่ะ***

ขนมลุกตุ้ม /ขนมลูกระเบิด /ขนมโป้งเหน่ง

เมนูนี้มีน้องคนหนึ่งบอกว่าอยากได้สูตรขนมทีมีไส้กรอกตรงกลางจะเอาไปทำขายตอนเปิดเทอม แต่น้องเค้าไม่รู้ว่าขนมที่อยากจะทำขายชื่ออะไร เค้าบอกแต่เพียงแต่รูปลักษณ์มาให้ นกเองก็เดา ๆ ว่าน่าจะเป็นขนมแบบนี้เพราะเคยเห็นที่หน้าโรงเรียนหลานชาย กับที่ตลาด วันนี้เลยลองทำให้น้องเค้าได้ดูว่าใช้ขนมที่อยากจะทำหรือเปล่า จะว่าไปแล้วขนมลูกตุ้ม หลายๆ คนรู้จักเคยเห็น แถมบางบางคนได้ลิ้มลองมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเค้าเรียกว่าอะไรกัน ขนมนี้มีหลายชื่อให้เรียกเลยที่เดียวค่ะ เคยถ้าแม่ค้าที่ขาย เค้าบอกว่าขนมลูกระเบิด แต่แม่เจ้าของร้านที่ขายขนมบอก ไม่ใช้ เค้าเรียกว่าลูกตุ้ม เลยไม่รู้ว่าลูกอะไรกันแน่น แถมเพื่อนยังบอกว่าอีกว่าที่บ้านเค้าเรียกขนมโป้งเหน่ง อ๋าวแล้วจะเรียกว่าอะไรดี นกไม่รู้จะใช้ชื่อไหนดี เลยเอามาทั้งหมด 3 ชื่อตัดปัญหาไปเลย มีใครบอกนกได้มั่งเอ๋ยชื่อที่ถูกต้องมันเรียกว่าอะไร


ส่วนผสม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 200 กรัม
แป้งข้าวเจ้า 1 ชต
ผงฟู 2 ชช
ไข่ไก่ 1 ฟอง
น้ำตาล 2 ชต
เกลือ 1 หยิบมือ
น้ำมันพืช 4 ช้อนโต๊ะ
นมสด 1/4 ถ้วย
น้ำปูนใส 2 ชช (ถ้ามี)
ไส้กรอกหั่นท่อนสั้นเสียบไม้ปิ้งลูกชิ้น ตามชอบ
น้ำมันพืชสำหรับทอด


วิธีทำ
1 ร่อนแป้งสาลี แป้งข้าวเจ้า ผงฟู รวมกัน แป้งจะได้ฟู ร่อนรวมกัน 2 ครั้งพักไว้
2 ตอกไข่ลงในอ่างผสม ใช้ตะกร้อมือ ตีจนไข่ขึ้นเป็นครีมสีเหลืองๆ จากนั้นผสมน้ำตาลกับเกลือ ลงไปตีจนรู้สึกว่าไม่มีเม็ดน้ำตาล ใส่น้ำมันพืชลงไปตีต่อจนส่วนผสมเข้ากัน
3 ตักแป้งที่ร่อนไว้ใส่ในไข่ที่ตี สลับกับนมสด จนหมด ตีให้แป้งจะละลาย ถ้าแป้งเหนียวให้เติมนม ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จะได้แป้งชุบทอดที่เนื้อเนียนเข้ากัน สังเกตแป้งเหนียวหนืด ไม่เหลว ชุบไส้กรอกติดดีก็เป็นอันใช้ได้
4 เอาน้ำมันใส่หม้อให้เยอะพอทอดขนม จากนั้นตั้งบนเตาเปิดไฟปานกลาง รอให้น้ำมันร้อน จุ่มไส้กรอกลงในแป้ง นำไปทอด คอยดูอยุ่ตลอดเวลา พอเหลืองให้ตักออก ซับน้ำมันให้แห้ง จากนั้นนำไปจุ่มรอบที่ 2 ทอดไปจนเหลืองสุกสวยตักออก ซับน้ำมันให้แห้ง เสริฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

*** ถ้าต้องการให้ขนมมีขนาดโตเท่าใด ก็จุ่มแป้งเพิ่มตามขนาดที่ต้องการ การจุ่มแป้งครั้งที่2 พยายามหมุนแป้งให้ลงตามไม้ลูกชิ้นจะทำให้แป้งสวยเวลาทอด เวลาทอดค่อย ๆ หมุนแป้งให้โดนน้ำมันจะได้เหลืองเท่า ๆ กัน***

ขนมถั่วแปบ

นกทำขนมไทยอีกแล้วค่ะ อย่าว่ากันนะค่ะ พอดีมีเครื่องปรุงพร้อม เลยทำไม่หยุดก็ว่าได้ค่ะ อีกอย่างไม่อยากเก็บแป้งทิ้งไว้นาน ๆ ด้วยนะค่ะ เมื่อมีของอยู่พร้อมตรงหน้าแล้ว ไม่อยากให้เสียเวลาลงมือทำเลยค่ะ



ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วย
น้ำเปล่า 1 ถ้วย
สีผสมอาหาร ตามชอบ
ถั่วเขียวดิบ 1 ถ้วย
เกลือป่น 1/2ชช.
มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 2-3 ถ้วย
เกลือ 1 ชต.
งาขาวคั่ว ตามชอบ
น้ำตาลทราย ตามชอบ

วิธีทำ
1. นำถั่วเขียวซีกมาล้างให้สะอาด แช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 1 ชม จากนั้นนำไปนึ่งจนสุกคลุกเคล้ากับเกลือพักไว้ 2..นวดแป้งกับน้ำเปล่าจนนุ่มพอปั้นได้ แบ่งแป้งออกเป็นก่อน ๆ หยดสีผสมอาหารลงไปจากนั้นนวดต่อจนกระทั้งสีเข้ากับเนื้อแป้ง ใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำบิดพอหมาดปิดไว้
3. งาคั่วสุกใส่ครกโขลกพอแตก ใส่น้ำตาลเกลือคลุกให้เข้ากัน ใส่ชามพักไว้
4. ปั้นแป้งเป็นก้อนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง1/2นิ้ว แผ่แป้งให้แบนตามยาว
ใส่ถั่วตรงกลางคลึงแป้งปิดให้มิด เหมือนรูปครึ่งวงพระจันทร์ อาไปต้มจนแป้งสุกลอยตัวขึ้นมาตักแป้งออกใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ
5. นำถั่วเขียวที่ห่อไส้มาคลุกกับมะพร้าวจากนั้นเอาแป้งที่ต้มสุกแล้วลงไปคลุกกับมะพร้าวและถั่วใส่จานยกโรยหน้าด้วยน้ำตาลผสมงา ยกเสริฟได้เลยค่ะ

ขนมเม็ดขนุน (สูตรไม่ใช้น้ำกระทิ)

วันนี้นกเข้าครัวลงมือทำตั้งแต่เช้าถึงบ่ายเลยค่ะเพื่อนๆ ขนมไม่ได้อยากแต่ขั้นตอนในการทำต้องใช้เวลา ตั้งแต่กวนถั่ว ปั่นเม็ดขนุน และอีกหลาย ๆ อย่าง เห็นผลงานแล้วสมดังใจหลายเหนื่อยไปเลยค่ะ ขอบอกว่าผลงานนี้ทำครั้งแรกในชีวิตเลยละค่ะ งานนี้ไม่มีคนช่วยชิมค่ะ นกเลยจัดการเสียคนเดียวหายคิดถึงไปเลย




ส่วนผสมถั่วกวน
ถั่วเหลืองซีกดิบ 2 ถ้วย
มะพร้าวขาวขูดฝอย 1 1/2ถ้วย
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
ไข่แดง 8 ฟอง

ส่วนผสมน้ำเชื่อม
น้ำตาลทราย 3 ถ้วย
น้ำเปล่า 2 ถ้วย

วิธีทำ
1.แช่ถั่วซีกประมาณ 2-3 ชั่วโมง เมื่อครบแล้วรินน้ำทิ้งแล้วล้างน้ำประมาณ 2-3 ครั้ง จากนั้นเทถั่วลงไปในห้อม เติมน้ำลงให้สูงจากถั่วประมาณหนึ่งนิ้ว เอาหม้อตั้งบนเตาใช้ไฟแรง โดยไม่ต้องปิดฝา คอยสังเกตสักนิดเพราะมันจะล้นจนเดือดแล้วให้ลดไฟลงปานกลางเคี่ยวต่อไป จนน้ำเกือบแห้งลดไฟให้ต่ำลง เทมะพร้าวและน้ำตาลทรายลงไป คนให้ทั่ว กวนไปเรื่อยๆ จนแห้ง ลดไฟลงเรื่อย ๆ กวนต่อไปจนเหนียว เวลากวนพยายามเร็ว ๆ เมื่อยหน่อยแต่ถ้ากวนไม่เร็วเดียวจะไหม้ได้ค่ะ
2.เมื่อแห้งได้ที่แล้ว ตักใส่จานพักไว้ให้เย็น จากนั้นนวดและปั่นให้ได้ขนาดตามต้องการใส่ถาดพักไว้
3. ตกไข่ใส่ชามแยกไข่ขาวออกจากไข่แดง พยายามรีดเอาแต่ไข่ขาวออกจากไข่แดงให้หมด
4. จากนั้นมาทำน้ำเชื่อมกันโดยนำน้ำเปล่าและน้ำตาลทรายใส่หม้อตั้งไฟให้เดือด แล้วหรี่ไฟอ่อนๆ เคี่ยวต่ออีกประมาณ 20-30 นาที ปิดไฟ จากนั้นคนไข่แดงเบาๆ พอให้ไข่แตกหยิบเม็ดขนุนที่ปั้นแล้วส่วนหนึ่ง ใส่ลงในชามไข่แดง แล้วหยิบหย่อนลงไปในน้ำเชื่อมทีละเม็ด ทำต่อไปจนหมดเวลาหย่อนเม็ดขนุนลงไป เม็ดขนุนจะดิ่งลงไปก้นหม้อแล้วลอยกลับขึ้นมา ไข่ก็จะแข็งตัวสุก ตักออกใส่จานแล้วทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นยกเสริฟได้เลยค่ะ

***เวลาเคี่ยวน้ำตาลใส่เปลือกไข่ลงไปด้วยนะค่ะ และถ้าเป็นไปได้ใช้เวลาทำน้ำเชื่อมพยายามทำให้เยอะหน่อยให้น้ำเชื่อมสูงจากก้นหม้อประมาณ 1คืบใหญ่ จะดีมาก ๆ เลยค่ะ เพราะความร้อนจากก้นหม้อจะมีมากทำให้ไข่สุกแข็งตัวได้ดี*

เต้าส่วน

มาอีกแล้วจ้าเมนูขนมหวาน ช่วงนี้กำลังเห่อทำขนมหวานค่ะเพื่อน ๆ ทำที่ไรกินคนเดียวทุกที่ แฟนคลับชิมแล้ว บอกว่าหวานมาก แถมเอาผักมาทำแปลก ๆ เลยไม่กินด้วย นกเองก็พยายามที่จะทำให้แฟนคลับกินขนมไทยให้ได้ สู้ ๆๆ แต่ครั้งนี้เหมาคนเดียวเหมือนเดิม



ส่วนผสม
ถั่วเขียวกระเทาะเปลือก ½ ถ้วย
น้ำ 1 ½ ถ้วย
หัวกะทิ ½ กระป๋อง
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
แป้งมัน หรือแป้งข้าวโพด 3-4 ชต
เกลือ หยิบมือ

วิธีทำ
1.เอาถั่วเขียวที่กระเทาะเปลือกแล้ว แช่น้ำไว้ประมาณ 3-4 ชม. พอถั่วนิ่มเทใส่ตะกร้าพักไว้ ให้พอสะเด็ดน้ำ จากนั้นนำถั่วเขียวไปนึ่งให้สุก พักไว้
2. ละลายแป้งมัน หรือแป้งข้าวโพดกับน้ำเล็กน้อยคนให้แป้งละลายไม่เป็นก้อนเตรียมไว้
3.เอาน้ำใส่ลงในหม้อ ตั้งบนเตาจนน้ำเดือด ใส่น้ำตาลลงไป ชมรสตามชอบ เทแป้งลงในหม้อที่ส่วนผสมกำลังเดือด คนเร็วๆให้เข้ากันจนส่วนผสมข้นเหนียว ถ้าเหนียวไม่พอใจก็ใสแป้งเพิ่ม่อีกตามชอบยกลงจากเตาจากนั้นใส่ถั่วที่สุกแล้วลงไป ในขณะที่ยังร้อนๆ แล้วคนเบาๆให้ทั่ว
4.เอากะทิใส่ในหม้ออีกใบ ตั้งบนเตาใส่เกลือเล็กน้อย คนให้เกลือละลาย พอกะทิเดือดก็ยกหม้อกะทิลงจากเตาตักเต้าส่วนใส่ถ้วยราดน้ำกระทิยกเสิรฟทานร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

บัวลอยน้ำขิง (ขนมอี้)

ห่างหายจากครัวไปหลายวันเลยค่ะ กลับมาอีกที่วันนี้นกเข้าครัวมาว่าด้วยเมนูของหวานทำทานง่าย ๆ มีวิธีการทำไม่ยุ่งยาก ที่บ้านแม่เรียกขนมอี้ ถ้าจะบอกว่าคนจีนโปราณจะมีการทำขนมอี้เพื่อเป็นเครื่องหมายของความกลมเกลียว จะช่วยให้ชีวิตราบรื่นหมุนไปไม่มีสะดุดเหมือนวงกลมที่ไม่มีที่สิ้นสุดนะค่ะ ที่บ้านแม่จะทำให้กินเป็นประจำในช่วงเทศกาลไหว้อี๊ หรือไม่ก็ ตรุษจีน สำหรับนกวันนี้ไม่ใช้วันกินขนมอี้ หรือตรุษจีนหรอค่ะอากาศมันหนาวเลยหาอะไรร้อน ๆ อุ่น ๆ กินนะค่ะ





ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้่วย
แป้งข้าวจ้าว 1/2 ถ้วย
น้ำ 1/4 ถ้วย
ขิงแก่หั้นเป็นแว่น ๆ 2 แง่ง
น้ำตาลทรายแดง ตามชอบ
น้ำสำหรับต้มน้ำขิงตามชอบ
สีผสมอาหารตามชอบ

วิธีทำ
1.นวดแป้งทั้งสองชนิดกับน้ำเข้าด้วยกันจนนุ่ม แบ่งแป้งเป็นก้อนๆใส่สีผสมอาหารลงไป 1 หยดจากนั้นนวดให้สีเข้ากับเนื้อแป้งอีกครั้ง
2.ตั้งน้ำให้เดือด ลดไฟพอน้ำร้อน ใส่แป้งที่ปั้นเรียบร้อย ต้มพอแป้งสุก ตักขึ้นแช่น้ำเย็นทันที
3.ใส่น้ำลงในหม้อตั้งไฟพอเดือด ใส่ขิงแว่น และน้ำตาลทรายตั้งไฟพอเดือด ยกลง
4.ตักบัวลอยใส่ถ้วยและตักน้ำขิงลงไปในถ้วยตามชอบ จากนั้นยกเสริฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

***ขนมอี้มีสองแบบค่ะเพื่อน ๆ แบบมีไส้ กับไม่มีไส้นะค่ะ วันนี้นกทำแบบไม่มีไส้ ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการจะใส่ไส้ นกมีสูตรและวิธิทำไส้มาให้ด้วย หลาย ๆ คนเรียกบัวลอยไส้งาดำ

ส่วนผสมไส้
งาำดำป่น 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย (ใช้น้ำตาปี้บ ถ้ามี)

วิธีทำ
1.นำงาดำมาคั่วจากนั้นนำไปโขลกให้ละเอียดจากนั้นนำไปคั่วกับน้ำตาลทรายจนเข้ากัน ทิ้งไว้จนเย็น
2.แบ่งแป้งเป็นก้อนๆ ตักใส่ใส้ประมาณ 1 ช้อนชา ห่อให้มิด ทำจนหมด
3.ตั้งน้ำให้เดือด ลดไฟพอน้ำร้อน ใส่แป้งที่ปั้นเรียบร้อย ต้มพอแป้งสุก ตักขึ้นแช่น้ำเย็นทันที


คุ๊กกี้สิงค์โปร์




ส่วนผสม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 3 ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
น้ำตาลทรายป่น 100 กรัม
มะม่วงหิมพานต์บด 80 กรัม
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ผ่าครึ่ง 1/4 ถ้วย
ผงฟู 1 ชช
เกลือป่น 1 ชช
เนยขาว 150 กรัม
น้ำมันพืช 3 ชต

วิธีทำ
1. ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ เข้าด้วยกัน 2 ครั้ง
2. คลุกเม็ดมะม่วงหิมพานต์กับน้ำตาลเข้าด้วยกัน เทใส่ในแป้งคนให้ทั่ว ๆ
3. ใส่ไข่ เนยขาว น้ำมัน ลงในแป้ง เคล้าให้เข้ากัน อย่านวด พักแป้งไว้ประมาณ 20 นาที จากนั้นคลึงแป้งออกให้หนาประมาณ 1-1 1/2 ซม. ใช้พิมพ์กดเป็นรูปตามต้องการ กดจนหมดแป้ง
4. ทาด้านหน้าด้วยไข่แดงให้ทั่ว วางทับด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ผ่าครึ่งซีก ทำจนหมด เรียงใส่ถาด นำเข้าอบที่ 150 องศา ประมาณ 25 นาที หรือจนขนมสุก พักให้เย็นจัดใส่กระปุก หรือขวดเสริฟคู่ชา กาแฟยามบ่ายได้เลยค่ะ

เค้กแยมโรล

เหงา ๆ ไม่รู้จะทำอะไรดี แฟนคลับก็ไม่อยู่ไปประชุมตั้งแต่วันจันทร์ กว่าจะกลับก็วันพฤหัส อยู่บ้านคนเดียวหลายวันเลยเรา อากาศก็ไม่ค่อยเป็นใจให้ออกไปช๊อปปิ้งเลย หนาวจริง ๆ อยู่บ้านทำแยมโรลทานกับกาแฟดีกว่า อีกอย่างพรุ่งนี้พ่อแม่แฟนคลับก็มารับไปช๊อปปิ้งแล้วเลยไปทานอาหารที่บ้านท่านอยู่แล้ว ถือโอกาสทำไปให้ทั้งสองได้ชิมเสียเลย จริงๆแล้วเมนูนี้นกเองทำหลายต่อหลายครั้งแต่ไม่เคยทำไปให้ทั้งสองชิมสักที นกเลยถือโอกาสเป็นของขัวญวันแห่งความรักที่ผ่านมาเสียเลย แล้วก็เอาสูตรมาลงให้เพื่อนในครัวเอ็นดีได้ชมได้ชิมกันเสียด้วยเลยค่ะ




ส่วนผสม
แป้งเค้ก 1 ถ้วย
น้ำตาลทรายละเอียด 1 ถ้วย
ไข่ไก่ 5 ฟอง
ผงฟู 1 ชช
เกลือ 1/2 ชช
วาลิลา 1 ชช
แยม ตามชอบ (วันนี้นกใช้ราสเบอร์รี่แยม)
น้ำตาลไอซิ่ง 4-5 ชต

วิธีทำ
1.เอาแป้งเค้ก ผงฟู เกลือร่อนรวมกัน พักไว้
2.แยกไข่แดงไข่ขาวออกจากกัน นำไข่ขาวไปตีจนขี้นฟู
3.นำไข่แดงใส่ลงในอ่างผสม ตีไข่แดงจนกระทั้งเป็นครีมข้น ๆ จากนั้น ค่อย ๆ เติมน้ำตาลทรายลงไปตีไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลทรายหมดและเป็นสีนวล ใส่วาลิลาลงไปตีให้เข้ากันอีกครั้ง
4.นำแป้งเค้กที่ร่อนไว้แล้วใส่ลงไปในอ่างผสมไข่แดงที่ตีไว้ก่อนหน้านี้ ค่อยคนให้เข้ากัน จากนั้นนำไข่ขาวใส่ลงไปคนผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
5. ทาเนยบนถาดรองด้วยกระดาษรองอบให้เหลือปลายทั้ง 2 ข้างไว้เล็กน้อย แล้วทาเนยบนกระดาษรองอบอีกที จากนั้นเทแป้งลงบนถาดและเกลี่ยแป้งให้ทั่วจนถึงมุมทั้งสี่ด้าน เอาเข้าเดาอบ อบประมาณ 10-12 นาที หรือให้พอเป็นสีเหลืองนวล อย่าอบนานจนเป็นสีน้ำตาลเข้ม หรือเกรียมจนเกินไปจะทำให้ม้วนยาก
6.เมื่อเค้กได้ที่นำยกออกจากเตานำไปคว่ำลงบนกระดาษรองอบที่โรยด้วยน้ำตาลไอซิ่งไว้เรียบร้อยแล้ว จากนั้นลอกกระดาษออก ใช้มีดกรีดริมแข็งออกทั้งสี เวลาม้วนจะได้ไม่แตก จากนั้นม้วนตามขวางหรือตามยาวแล้วแต่จะเลือก
7. เมื่อม้วนเสร็จคลี่ออกแล้วทาแยมได้เลย เวลาทาไม่ต้องให้เยอะเกินไปเดี่ยวม้วนกลับไส้แยมจะเลอะออกมา ท่าเสร็จม้วนอีกรอบยกวางในถาดให้ตรงตะเข็บทิ้งไว้ให้แล้วหั่นด้วยมีดคม ๆ จัดใส่จานเสิรฟคู่กับชากาแฟยามบ่ายได้เลยค่ะ

***ถ้าต้องการจะใช้ไส้ครีมผสมด้วยก็ต้องคอยให้เค้กเย็นเสียก่อนแล้วค่อยใส่ไส้ครีมลงไป ส่วนวิธีการอื่น ๆ เหมือนกันค่ะ***

สังขยาฟักทอง (Pumpkin Custard)

วันนี้นกเข้าครัวทำเมนูของหวานต้อนรับเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ค่ะเพื่อน ๆ จำได้ไม่เคยลืม พอใกล้ปีใหม่ที่ไรแม่จะมองหาฟักทองลูกย่อมๆ เอาไว้ใช้ทำฟักทองสังขยา เพื่อเอาไว้ทำบุญที่วัน หรือไม่ก็นำไปฝากญาติผู้ใหญ่ที่สนิทสนมอยู่เสมอ จนทำให้หลาย ๆ คนติดอกติดใจฝีมือของแม่ ถึงขนาดมีคนมาสั่งให้ทำเลยที่เดียว เป็นเหตุผลให้แม่ทำฟักทองสังขยาขายไปเลยค่ะ นกเองมีโอกาสได้เห็นเวลาแม่ทำ แต่ไม่เคยลงมือทำเลยสักครั้ง วันนี้ของัดวิชาครูพักลักจำสูตรของแม่มาใช้ให้หายคิดถึงเสียหน่อย อย่าช้าเข้าครัวกันเลยค่ะ ฟักทองนอนรออยู่หลายวันแล้ว



ส่วนผสม
ฟักทองขนาดกลาง 1 ลูก (เลือกขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป)
กะทิ 1 กระป๋อง
ไข่ไก่ขนาดกลาง 4 ฟอง
น้ำตาลปิ๊ป 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
เกลือป่น 1 หยิบมือ
กลิ่นใบเตย 1 ชช (ถ้ามีใบเตยใช้ใบเตยค่ะป

วิธีทำ
1.ตัดเปิดช่องด้านบนของฟักทองให้กว้างพอประมาณ จากนั้นคว้านเม็ดฟักทองออกให้หมด
2.ตอกไข่ใส่ชามตีให้เข้ากัน ใส่กะทิ น้ำตาลปี๊ป น้ำตาลทราย และเกลือป่น ลงไปผสมไปเรื่อยๆ จนน้ำตาลละลายหมดและส่วนผสมเข้ากันดีใส่กลิ่นใบเตยลงไป ค้นให้เข้ากันอีกครั้ง (จริง ๆ แล้วต้องใช้ใบเตยขยำส่วนผสมค่ะ แต่ไม่มีเลยใช้กลิ่นใบเตยแทน)
3.นำส่วนผสมที่ได้กรองผ่านกระชอนใส่ลงในฟักทอง แล้วนำไปนึ่งประมาณ 45-50 นาทีหรือจนกระทั้งสังขยาสุก พอสุดยกลงจากเตาปล่อยให้เย็นจากนั้นตัดเป็นชิ้น ๆใส่จานเสริฟได้เลยค่ะ

***ชิ้นนี้ตัดมาชิมก่อนยังร้อน ๆ อยู่เลยค่ะ อร่อยไม่ผิดหวังเลยจริง ๆ ต้องขอบพระคุณสูตรของแม่คะ คิดถึงแม่ และทุกคนมาก ๆ เลย***



Apple and Raspberries Snow

นกไปบ้านพ่อแม่มาค่ะ ไปอ่านเจอะสูตรของว่างในหนังสือเล่มหนึ่งที่บ้านท่าน อ่านแล้วน่าสนใจดี มีแอ๊ปเปิ้ลเป็นส่วนผสมอีกแล้ว รีบจดสูตรกลับมาทำที่บ้านเลยค่ะ ทำออกมาแล้วหน้าตารสชาดใช้ได้เลยที่เดียว เพือน ๆ คนไหนสนใจลองเอาสูตรไปทำดูนะค่ะ รับรองไม่ผิดหวังค่ะ



ส่วนผสม
แอีปเปิ้ล 8-10 ลูก
น้ำมะนาว 1 ชต
ราสเบอรรี่ 30-40 ลูก
ไข่ขาว 3 ฟอง
น้ำตาลทราย 100 กรัม

วิธีทำ
1.ปลอกเปลือกแอ๊ปเปิ้ลแล้วหั่นเป็นชิ้น ๆ ขนาดพอคำ จากนั้นเอาหม้อตั้งไฟอ่อน ใส่แอ๊ปเปิ้ลที่หั่นลงไปพร้อมน้ำตาลและน้ำมะนาว พอขลุกขลิก ต้มไปจนกระทั้งแอ๊ปเปิ้ลสุก นำลงจากเตาพักไว้ให้เย็น
2. นำไข่ขาวใส่ลงไปในอ่างผสม ตีไข่ขาวพอให้ขึ้นฟูแล้วจึงค่อยๆเติมน้ำตาลลงไปตีไข่ขาวเริ่มจากสปีดต่ำแล้วเพิ่สปีดขึ้นเรื่อยๆจนเป็นสปีดแรงสุดจากนั้นตีต่อไปจนกระทั้งตั้งยอดแข็งเก็หยุดตี
3. เอาแอ๊ปเปิ้ลที่พักไว้ใส่ลงในถ้วยอบตามด้วยราสเบอรี่ โรยให้ทั่่วๆ จากนั้นตักไข่ข่าว วางทับไว้ด้านบนผลไม้จดหมดจากนั้นเอาเข้าเตาอบ อบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 20 นาที หรืออบไปจนกระทั้งเป็นสีเหลืองสุกสวย

Apple and Raspberries Pie

วันนี้นกมีพายมาฝากเพื่อนๆ ค่ะ ถ้าพูดถึงพายคนที่นี้ส่วนใหญ่จะนิยมทานกันมีหลายชนิดค่ะมีทั้งที่เป็นของหวาน และของคาว ถ้าเป็นเมนูของหวานพายแอ๊ปเปิ้ลถือเป็นเมนูอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ค่ะยิ่งช่วงนี้แอ๊ปเปิ้ลแข่งกันออกผลให้ทานกันไม่ทันยิ่งมีมากเป็นพิเศษ ไปบ้านไหนก็มีแต่แอ๊ปเปิ้ลพายทานกันไม่รู้จักเบื่อเลยละค่ะ แต่พายที่นกทำวันนี้นกใส่ Raspberries ลงไปด้วยเป็นการเพิ่มความอร่อยที่แตกต่างให้กับพายค่ะ





ส่วนผสมแป้งพาย
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ถ้วย
เนยสด หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 150 กรัม
น้ำเย็นจัด 1 ถ้วย (ใส่ที่ละนิดจนกระทั้งแป้งไม่ติดมือ)
ไข่ไก่ 1ฟอง


ส่วนผสมของไส้พาย
แอ๊ปเปิ้ล ขนาดกลาง 8-10 ลูก
Raspberries 15-20 ลูก
น้ำตาลทราย 3 ชต
น้ำมะนาว ตามชอบ


วิธีทำ
1.เริ่มทำแป้งพายโดยนำส่วนผสมของแป้ง และเนย ใส่ลงในอ่างผสมใช้มือบีบคลุกเค้าให้เข้ากันทั้งหมดจากนั้นเติมน้ำเย็นจัดลงไปที่ละนิดจน ใช้มือนวดให้เข้ากันจนกระทั้งเป็นแป้งโดเอาผ้าคลุมพักไว้
2.ทำไส้พาย โดยปลอกเปลือกแอ๊ปเปิ้ลแล้วหั่นเป็นชิ้น ๆ ขนาดพอคำ
3. เอาหม้อตั้งไฟอ่อน ใส่แอ๊ปเปิ้ลที่หั่นลงไปพร้อมน้ำตาลและน้ำมะนาว พอขลุกขลิก ต้มไปจนกระทั้งแอ๊ปเปิ้ลสุก นำลงจากเตาพักไว้ให้เย็น
4.นำแป้งโดที่พักไว้มาคลึงให้ได้ขนาดตามพิมพ์ที่ต้องการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกนำมาบุลงในพิมพ์ ใช้มือกดให้แป้งแนบกับพิมพ์ จากนั้นเอาไว้แอ๊ปเปิ้ลที่พักไว้ใส่ลงไป โรยหน้าด้วย Raspberriesให้กระจายทั่วพิมพ์เอาแป้งพายอีกส่วนนำมาปิดหน้ากดให้ริมทั้งสองติดกัน
5. ตีไข่ให้แตก แล้วนำมาทาให้ทั่วหน้าพายจากนั้น เอาเข้าเตาอบที่ไฟ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 25 นาที หรือจนกระทั้งจนแป้งพายเป็นสีเหลืองสุกสวย แล้วโรยน้ำตาลไอซิ่ง ตักใส่จานยกเสริฟได้เลย จะทานคู่กับไอศกรีมหรือคัสตาร์ด ก็ได้ค่ะ


***ถ้าเพื่อน ๆ ชอบทานหวานให้เพิ่มน้ำตาล ไม่ต้องใส่น้ำมะนาว เปลี่ยนเป็นน้ำเปล่าเล็กน้อยค่ะ นกชอบแบบเปรี้ยวเล็กๆ เลยใส่น้ำตาลเล็กน้อย และใส่มะนาวเพิ่มความเปรี้ยวนะค่ะ***



แพนเค้ก




ส่วนผสม

แป้งสาลี 1 ถ้วย
ไข่ไก่ 2 ฟอง

นมสด 1 ถ้วย
เกลือป่น หยิบมือ
น้ำตาลทราย ตามชอบ

เนย ตามชอบ

ผงฟู 1/2 ช้อนชา (ไม่มีไม่ต้องใช้)

ช็อกโกแลตเหลวสำหรับราดหน้า หรือแยมตามชอบ

วิธีทำ
1.ผสมแป้งสาลี ไข่ไก่ นมสด เกลือ น้ำตาลทราย และผงฟู ตีคลุกเคล้าให้เข้ากันจนเนื้อแป้งที่ได้มีความเหนียวเล็กน้อย
2.ตั้งกระทะบนเตาใช้ไฟร้อนปานกลาง เอาเนยลงไปลงผัดบนกระทะเกลี่ยเนยที่ละลายจนทั่วกระทะ
3.ตักแป้งที่ผสมเรียบร้อยแล้วลงในกระทะ พอประมาณอย่าให้หนาเกิน จากนั้นทอดจนแป้งสุกที่ละด้าน สังเกตุ เนื้อแป้งจะเดือดเป็นรูพุน ให้เปลี่ยนด้านทอดอีกด้านได้เลย สุกทั้งสองด้าน ตักใส่จานเสริฟได้เลยค่ะ

*** บางคนจะใช้แป้งแพนเค้กเลย แต่วิธีการก็เหมือนกันค่ะ นกขอให้สนุกและมีความสุขกับการทำขนมแพนเค้กนะค่ะ****

พายข้าวโพด



ส่วนผสมแป้งพาย
แป้งสาลีร่อน 2 ถ้วย
เกลือป่น 1 หยิบมือ
เนยสด 150 กรัม (หั่นเป็นสี่เหลี่ยมให้ได้ขนาดเท่าลูกเต๋า)
น้ำเย็นจัด 1/2 ถ้วย

ส่วนผสมไส้ข้าวโพด
ข้าวโพดกระป๋อง 1 กป (260 กรัม)
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
นมสด 1/2 ถ้วย
แป้งข้าวโพด 1 1/2 ชต
เนยจีดละลาย 50 กรัม

ส่วนผสมก่อนอบ
ไข่ไก่ 1ฟอง

วิธีทำ
1.ทำส่วนของตัวแป้งพายโดยนำส่วนผสมทุกอย่างรวมกันยกเว้นน้ำเย็นให้เติมไปที่ละนิดจนแป้ง เริ่มจับตัวให้หยุดเติมน้ำ จากนั้นนวดให้เข้ากันปั้นเป็นก้อนกลมๆ ห่อด้วยพลาสติกนำแช่ตู้เย็นประมาณ 30 นาที (ช่องแช่แข็ง) หรือ 1 ชม (ชั้นธรรมดา)
2. นำข้าวโพด น้ำตาลทราย นมสด เนย และแป้งข้าวโพดมาผสมให้เข้ากันหลังจากนั้นก็นำไปตั้งไฟใช้ไฟอ่อน ๆ กวนไปเรื่อย ๆ จนกระทั้งแป้งสุก พักไว้
3.เมื่อครบกำหนดแช่แป้ง นำออกจากตู้เย็นมามาคลึงให้บางตัดให้ใหญ่กว่าขนาดพิมพ์กรุลงพิมพ์ที่ทาไขมันแล้วเรียบร้อยแล้วจากนั้นตักไส้ใส่ลงไป ตัดแป้งทำเป็นฝาปิดพายให้มิดชิด ตัดแป้งส่วนที่เหลือออก แล้วเจาะรูระบายอากาศที่ฝา กั้นไว้ไม่ให้ไส้ล้นทะลักออกมาเวลาอบ
4.เอาไข่ใส่ถ้วยตีให้กระจายจากนั้นนำไปทาหน้าพายให้ทั่ว ก่อนนำเข้าอบ อบที่อุณหภูมิ 180 องศา C หรืออบจนกระทั้งแป้งเหลืองสุก ปิดไฟในเตาอบนำออกมาวางให้เย็นจากนั้นเอาออกจากพิมพ์จัดใส่จานเสริฟคู่กับกาแฟร้อน ๆ ยามบ่ายได้เลยคะ

****ส่วนผสมนี้นกทำพายข้าวโพดได้ 12 ชิ้นใหญ่ ๆ คะ *****

พายสับประรด

เมนูนี้ต้องยกความน่ารักให้กับแฟนคลับที่บ้านค่ะ หลังเลิกงานนกให้แวะซื้อแป้งเค้กให้หน่อย เพราะที่บ้านหมด นกกะว่าจะทำขนมเค้กไปฝากแม่แฟนคลับวันพรุ่งนี้นะค่ะ แฟนคลับกลับบ้านตอนเย็น นกได้แป้งแถมยื่นสับประรดให้อีก 2 ลูก ยิ้มหน้าบานบอกว่าเราว่ามันถูกดี เข้าใจค่ะว่าเป็นผลไม้ที่แฟนคลับชอบแต่ซื้อมาเยอะทานไม่หมดทิ้งไว้นานคงต้องเน่าแน่น ๆ ทำให้นกต้องเปลี่ยนแผนจากทำเค้กเป็นทำพายสับประรดแทน



ส่วนผสม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 250 กรัม
น้ำตาล (สำหรับผสมแป้ง) 2 ชต
ไข่ไก่ 2 ฟอง (แช่เย็น 1 ฟอง และใช้ทาก่อนอบ 1 ฟอง)
เกลือ 2/3 ชช
เนยสดรสจืด 150 กรัม (แช่เย็น)
น้ำเย็น 50 กรัม
สับปะรดกวน

วิธีทำ
1.เอาเนยสด 50 กรัม มาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เสร็จแล้วนำกลับไปแช่ตู้เย็นอีกครั้ง
2.ผสมน้ำเย็น น้ำตาล และ เกลือ คนให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นตอกไข่ใส่ลงไป ตีให้ไข่แตกตัว พักๆไว้ในตู้เย็น
3. ร่อนแป้งลงในอ่างผสม จากนั้นนำส่วนผสมที่พักๆไว้ในตู้เย็นทั้งหมด เทลงในอ่างผสม แล้วนวดด้วยเครื่องแฮนด์มิกซ์ใช้หัวตะขอความเร็วต่ำ พอแป้งเริ่่มเกาะตัวให้เอามานวดกับมือต่อ ประมาณ 1ชม
4. เมื่อนวดครบ 1 ชม ห่อแป้งด้วยพลาสติกนำไปแช่ตู้เย็น ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
5. เมื่อครบกำหนด นำแป้งออกจากตู้เย็นมาให้เป็นแผ่นสี่เหลี่ยม หนาประมาณ 1/2 เซนติเมตร พักไว้ และนำเนยสดส่วนที่เหลือ ตัดและวางใส่กระดาษฟอยด์ แล้วคลึงเป็นแผ่นบางๆสี่เหลี่ยม ให้กว้างได้ประมาณเกือบเท่าความกว้างของแผ่นแป้ง
6. เอาเนยวางทับลงบนแผ่นแป้งพับแผ่นแป้งทั้งสี่ด้านเริ่มจากส่วนที่ไม่มีเนยสดก่อน แล้วพับประกบอีกด้าน จากนั้นใช้ไม้คลึงรีดให้เป็นแผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้า เสร็จแล้วพับเป็น 3 ทบ แล้วห่อด้วยพลาสติก ไปแช่ตู้เย็น 30 นาที หลังจากแช่ตู้เย็นจนครบกำหนด 30 นาที ก็ทำการรีดใหม่ ทำซ้ำเสร็จก็พับแล้วห่อกลับไปแช่ในพักตู้เย็นประมาณ 4-5 ครั้ง
7. นำแป้งออกจากตู้เย็นมาคลึงให้หนาประมาณ 1/2ซม. ตัดแป้งเป็นแผ่นๆ ให้เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ใช้มีดกรีดมุมทั้งสี่ด้าน ตักสับประรดกวนไว้ตรงกลางแผ่น จับมุมมาปิดให้เป็นรูปกังหัน
8. ตอกไข่ไก่ที่เหลืออีกฟองใส่ชามตีให้แตก ผสมนมสดนิดหน่อย แล้วนำไปทาแผ่นแป้งแผ่นแฉพาะด้านบน
9.เปิดเตาอบวอร์มเตาไว้ให้อุณหภูมิคงที่ จากนั้นนำเข้าเตาอบ ที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส อบไปจนกระทั่งขนมเหลืองสวยได้ที่ นำขึ้นพักไว้ให้เย็น ยกเสริฟ ทานกับชากาแฟยามบ่าย ๆ อร่อยมากๆ ค่ะ

***นกไม่ได้เขียนสูตรสับประรดกวน คิดว่าเพื่อน ๆ ส่วนใหญ่คงทำได้อยู่แล้ว แต่นำภาพมาให้เพื่อน ๆ ได้ชมได้ชิมกัน ถ้วยนี้เหลือจากทำพาย เราเก็บไว้ทานกับไอศครีมวาลิลา ช่วงอากาศร้อน ๆ ดับความร้อนได้ดีที่เดียวค่ะ***



Apple Crumble


ส่วนผสม
แอ๊ปเปิ้ลเขียว 6 ผล
น้ำตาลทราย 250 กรัม
แป้งสาลี 200 กรัม
เนย 150 กรัม
อบเชย 1 แท่ง

วิธีทำ
1.ปลอกเปลือกแอ๊ปเปิ้ล หั่นเป็นชิ้นๆพอคำ
2. เอาแอ๊ปเปิ้ลที่หั่น อบเชย น้ำตาลทราย 50 กรัม ใส่ลงในหม้อ นำขึ้นตั้งเตาใช้ไฟปลานกลาง เคี่ยวให้แอ๊ปเปิ้ลอ่อนและนิ่ม ยกขึ้นจากเตาเขี่ยอบเชยออกตักแอ๊ปเปิ้ลใส่พิมพ์ที่ต้องการพักไว้ให้เย็น
3. เปิดเตารอไว้ที่ 150 C ทิ้งให้อุณหภูมิคงที่
4. นำแป้งสาลี่ เนย และน้ำตาลทรายที่เหลือทั้งหมด ใส่ลงในอ่างผสม นวดคลุกให้เข้าก้น จะได้แป้งเค้ก ร่วน ๆ
5.เอาแป้งเค้กที่ได้โรยให้ทั่วพิมพ์ ปิดหน้าไม่เห็นแอ๊ปเปิ้ล จากนั้นนำเข้าเตาอบ อบประมาณ 30 นาที่ หรือจนกระทั้งสุกได้ที่ ยกออกจากเตา พักให้เย็น

****หน้าเค้กที่เห็นวันนี้นกใส่ แอลมอนลง เพื่อน ๆ จะใส่ก็ได้ ไม่ใส่ก็ได้ค่ะ แต่ที่นกใส่มีเห็นผลเพราะอยากทานนะค่ะ โรยหน้าให้ทั่ว ๆ ก่อนเข้าเตาอบค่ะ****



เค้กแอ๊ปเปิ้ล


ส่วนผสม
แป้งเค้ก 120 กรัม
น้ำตาลทราย 120 กรัม
เนย 120 กรัม
ผงฟูู 1 ชช
ไข่ไก่ 2 ฟอง
แอ๊ปเปิ้ลเขียว 3 ลูก (ถ้าลูกขนาดใหญ่ ใช้ 2 ลูกก็พอค่ะ)
ผงอบเชย 1 ชช (ใช้โรยหน้าก่อนอบ)
น้ำตาลทราย 2 ชช (ใช้โรยหน้าก่อนอบ)

วิธีทำ
1.เปิดเตาอบใช้ไฟ180 องศาเซลเซียส หรือ 350 องศาฟาเรนไฮต์ ผสมผงอบเชยและน้ำทรายสำหรับใช้โรยหน้าก่อนอบเข้าด้วยกัน พักไว้
2.แอ๊ปเปิ้ลเขียวปอกเปลือกหั่นเป็นเสี้ยว ๆ เหมือนรูปเรือ แช่น้ำมะนาวทิ้งไว้สักครู่ สงขึ้นจากน้ำ พักให้แห้ง
3.นำแป้งสาลี ผงฟูู ผสมร่อนพักไว้
4. นำน้ำตาล และเนย ใส่ลงอ่างผสมตีด้วยเครื่องจนกระทั้งส่วนผสมเข้ากัน
5. ตอกไข่ใส่ชามตีให้ไข่แดงพอแตกใส่ลงในอ่างผสม ตีให้เข้ากัน จากนั้นใส่แป้งไปในอ่างผสม ตีด้วยเครื่องอีกครั้งจนกระทั้งแป้งและไข่เข้ากัน
6. นำพิมพ์ทีเตรียมไว้ทาเนยให้ทั่ว จากนั้นเอาแป้งเค้กเทใส่ในพิมพ์เกลี่ยให้เสมอกัน
7. นำแอ๊ปเปิ้ลที่หั่นไว้เรียบร้อยแล้ว วางเรียงลงบนแป้งกดลงไปสักนิดหน่อย เรียงให้ทั่วพิมพ์ จากนั้นโรยด้วยหน้าด้วยน้ำตาลทราย และ ผงอบเชยที่เตรียมไว้ให้ทั่ว นำเข้าเตาอบ อบประมาณ 45 นาที หรือจนกระทั้งเค้กสุก เมื่ออบได้ที่แล้วนำออกจากเตาอบ ตั้งทิ้งไว้สักพักจากนั้นเอาออกจากพิมพ์ผึ่งบนตะแกรงให้เย็น ตัดใส่จานเสริฟ คู่กับครีม หรือไอศรีม ตามชอบได้เลยค่ะ

***ความร้อนในเตาแต่ละบ้านอาจไม่เท่ากัน ต้องสักเกตความร้อน และเวลาในการอบอบ ทดสอบว่าเค้กสุกแล้วหรือยังให้เอาไม้เสียบลูกชิ้นจิ้มลงในเนื้อเค้ก ถ้าเนื้อเค้กไม่ติดไม่ขึ้นมาแสดงว่าเค้กสุกได้ที่***

เค้กส้ม (Tangy Orange Cream Sponge)

นกเป็นคนชอบทานส้มมาก ๆ โดยเฉพาะน้ำสัม ชอบคั่นเองสด ๆ ดื่มได้รสชาดดีค่ะ นกไม่ได้เป็นนางเอกกับเค้าหรอกนะค่ะเพื่อน ๆ ที่ชอบก็เพราะไปอ่านหนังสือเจอว่าช่วยลด คอเลสเตอรอล หรือไขมันในเส้นเลือด ช่วยคลายเครี่ยด เมื่อรู้แล้วว่ามีประโยชน์ก็น่าจะทานใช่ไม่ค่ะ นกเลยซื้อติดบ้านเป็นประจำ แถมบังคับแฟนคลับให้ทานส้มอีกต่างหาก ด้วยความที่นกตั้งใจหลายครั้งหลายหนว่าจะทำเค้กส้มแต่ก็ยังไม่มีโอกาสสักทำสักที่ มาวันนี้ไปเที่ยวตลาดตอนเช้าได้สัมสวย ๆ มาหลายลูกแถมราคาถูกใจ จัดการซื้อมาทำเสียเลยยิ่งตอนบ่าย ๆ ว่างงานไม่มีโปรแกรมว่าจะทำอะไรอยู่ด้วย ทำเค้กนี้ละ ดีกว่านั่งเล่น ๆ ดูทีวีคอยแฟนคลับกลับบ้าน ว่าแล้วก็ลงมือกันเถอะค่ะเพื่อน ๆ

ส่วนผสม

แป้งเค้ก 2 ถ้วย
ผงฟู 2 ชช
น้ำตาลทราย 1 1/2ถ้วย
เกลือ 1 ชช
ไข่ไก่ 3 ฟอง (ถ้าไข่ไก่เบอร์เล็กใช่ 4 ฟอง)
น้ำมัน 1/3 ถ้วย
นม 1/4 ถ้วย
ส้ม 2 ผล (ใช้ผิวส้ม และน้ำส้ม)

วิธีทำ
1.เปิดเตาให้อุณหภูมิคงที่ไว้ที่ 180 องศา C
2.ร่อนแป้งเค้ก กับผงฟูรวมกัน 2 ครั้งพักไว้
3.นำผลส้มมาขุดผิว และคั่นน้ำใส่ถ้วยพักไว้
4.ตอกไข่ใส่อ่างผสม ใส่น้ำตาล และเกลือลงไป ตีด้วยความเร็วสูงประมาณ 7- 8 นาที สังเกตเมื่อส่วนผสมเข้ากันจะมีลักษณะข้น ๆ
5.ใส่แป้งที่ร่อนรวมกับผงฟูลงไป ตีด้วยความเร็วต่ำที่สุด ประมาณ 1-2 นาที จากนั้นใส่น้ำมันพืช นม น้ำส้ม และผิวส้มลงไปตีด้วยความเร็วต่ำประมาณ 1 นาที หรือจะใช้ไม่้พายคนให้เข้ากันก็ได้
6.เมื่อเข้ากันดีแล้วตักส่วนผสมทั้งหมดใส่พิมพ์ที่ต้องการ นำเข้าเตาอบ ใช้เวลาในการอบประมาณ 20-25 นาที หรือจนกระทั้งเค้กสุก นำออกจากเตาพักไว้บนตะแกรงทิ้งไว้จนเย็น พอเย็นนำเค้กมาแต่งหน้าตามชอบ

***เค้กส้มที่เพือน ๆ เห็น นกแต่งด้านบนใช้มาร์มาเลด ตรงกลางใช้วิปครีมและมาร์มาเลด ค่ะ***

ขนมปังกระเทียม

วันนี้เข้าครัวมาทำอะไรง่ายๆทานเล่นกันดีกว่าค่ะ นกคิดว่าขนมปังกระเทียมคงเป็นของโปรดของเพื่อนหลายๆ คน แฟนคลับที่บ้านนกก็อีกคนที่ชอบทานค่ะ วิธีทำไม่มีอะไรยุ่งยาก และใช้เวลาก็ไม่มากคะขนมปังกระเทียมจะอร่อยได้รสชาติกรอบนอกนุ่มในค่ะ



ส่วนผสม
กระเทียมสับละเอียด 10 กลีบ
เนยจืด 1/4 ถ้วย ทิ้งไว้ให้อุ่นณหภูมิห้องให้นุ่ม
น้ำมันมะกอก 1 1/2 ชต
พาสลีย์ (parsley) สับละเอียด 1/4 ถ้วย
Baguette ( French stick baguette ) 1 อันใหญ่ ๆ หั่่นเป็นชิ้นๆ หนาประมาณ 1 1/2 ชม
เกลือ 1/4 ชช

วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 180 องศาเชลเซียส
2. เอาเนย น้ำมันมะกอก กระเทียมสับ พาสเลย์สับ และเกลือ ผสมเข้าให้กัน
3. นำขนมปังที่ทาเนยเรียบร้อยแล้วเข้าอบเป็นเวลา 15 นาที หรือจนกระทั้งขนมปังเหลือง ใส่จานยกเสริฟทานคู่กับสปาเก็ตตี พิซซ่า หรือ สเต็ก ก็ได้ค่ะ


เค้กกล้วยหอม

ช่วงนี้ผีเบเกอรี่เข้าสิงนกค่ะเพื่อนๆ ไม่รู้ว่าเป็นอะไรคิดอยากจะทำโน่นนี้ไม่ได้หยุด วันนี้ก็เหมือนกันค่ะ นกคิดว่าจะทำของว่างไว้ทานหลังอาหาร ที่บ้านนกจะมีกล้วยหอมติดบ้านไว้เป็นประจำถึงว่าเป็นผลไม้หลัก ๆ ก็ว่าได้ค่ะ นกทิ้งไว้ให้สุกเหลืองมาก ๆ จนเปลือกจะมีสีน้ำตาลเล็กน้อย จนนกต้องบอกแฟนคลับว่าอย่างเอากล้วยที่นกเก็บไว้ไปทิ้งเพราะจะใช้ทำเค้กกล้วยหอม ซึ่งตามจริงแล้วนกตั้งใจจะทำตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว แต่กล้วยหอมที่เก็บเอาไว้ มีมือดีเอาไปทิ้งเสียก่อน แถมยังบอกว่าเราลืมกินกล้วยจนกระทั้งมันเป็นสีน้ำตาลหาว่ากล้วยหอมเราเน่าแล้ว มาคราวนี้ต้องบอกว่ากล้วยหอมไม่ได้เสียตั้งใจทิ้งไว้ให้สุกมาก ๆ จะเอาไปทำเค้กกล้วยหอม เหตุที่ต้องให้มันสุกมาก ๆ ก็เพราะเวลาเอาไปทำเค้กจะมีกลิ่นหอมของกล้วยแรงนะค่ะ แต่ถ้าใช้แค่พอสุกกลิ่นที่ได้จะมีน้อย เดี่ยวจะไม่รู้ว่าเป็นเค้กกล้วยหอม ต้องมาเพิ่มกลิ่นกล้วยหอมกันอีก





ส่วนผสม
แป้งเค้ก 200 กรัม

ผงฟู 1 1/2 ชช
เบคกิ้งโฃดา 1ชช
เกลือป่น ½ ชช
ไข่ไก่ 4 ฟอง (ถ้าไข่เบอร์ใหญ่ 3 ฟอง)
น้ำตาลทราย 200 กรัม (หากไม่ชอบลงลงมาให้เหลือ 180 กรัม ความหวานกำลังพอดี)
กล้วยหอมบด 3 ลูก
น้ำมันพืช 1 ถ้วย
มะนาว 1 เสี้ยว
กลิ่นกล้วยหอม (พี่นกไม่ได้ใช้กลิ่นกล้วยหอม แต่ใช้กล้วยหอมที่สุกมาก ๆ กลิ่นจะแรงอยู่แล้วนะค่ะ)

วิธีทำ
1. เปิดเตาตั้งไว้ที่อุณหภูมิที่ 180 องศาเซลเซียส เพื่อให้ความร้อนคงที่

2.นำแป้ง ผงฟู เบคกิ้งโซดา มาร่อนในตะแกรงด้วยกันก่อน 2 ครั้ง พักไว้
3. ตอกไข่ใส่อ่างผสม ใส่นำ้ตาลทราย เกลือป่นลงไป แล้วตีด้วยความเร็วสูง โดยตลอดจนกระทั่งขึ้นฟู หรือประมาณ7-8 นาที สังเกตส่วนผสมจะออกมาค่อนข้างข้น ๆ
4.นำกล้วยหอมที่ใช้มาปลอกเปลือกออกให้หมด ใส่ลงในโถบด ปีบมะนาวลงไป จากนั้นบดให้ละเอียด พักไว้
5.ใส่แป้งทีร่อนไว้ลงในอ่างผสมตีด้วยความเร็วตำ่ ประมาณ 2 นาที่ให้ส่วนผสมเข้ากัน
6. เมื่อส่วนผสมเข้ากันแล้วเติมนำ้มันพืช (กลิ่นกล้วยหอม) ลงไป ตีด้วยความเร็วปานกลางประมาณ 3 นาที่ ใส่กล้วยหอมบดละเอียดลงไปทั้งหมด ตีด้วยความเร็วตำอีก 2 นาที
7. ตักส่วนผสมทั้งหมดใส่ถ้วยหรือพิมพ์ทีต้องการ เอาเข้าเตาอบ ใช้เวลาในการอบประมาณ 20-25 นาที หรือจนกระทั้งสุกให้เปิดเตาอบดูสังเกตสีจะเข้มขึ้นเมื่อสุกได้ที่แล้วนำาออกจากเตา
มาพักไว้บนตะแรงให้เย็น